กรมการขนส่งฯ เผยยอดผู้ชำระภาษีรอบ 10 เดือน (ต.ค. 65-ก.ค. 66) สำนักงานขนส่ง กทม.พื้นที่ 1-5 กว่า 5.5 ล้านคันเป็นเงินรวม 7.6 พันล้านบาท แนะรถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์อายุการใช้งานเกิน 5 ปี นำรถเข้าตรวจสภาพก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกมีช่องทางในการให้บริการประชาชนสำหรับการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายช่องทาง โดยมีช่องทางการชำระภาษีออนไลน์ เช่น การชำระภาษีออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th,
แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความสะดวก และไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีได้
สำหรับยอดผู้ชำระภาษีรถระหว่างเดือน ต.ค. 2565-ก.ค. 2566 (10 เดือน) กรมการขนส่งทางบกสามารถจัดเก็บภาษีรถประจำปีของสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ได้จำนวนทั้งสิ้น 5,513,210 คัน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 7,641,052,271.67 บาท โดยแบ่งออกเป็นผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax จำนวน 113,906 คัน เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 687,452 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 145,766 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 8,977 คัน ในส่วนการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มีผู้ใช้บริการจำนวน 3,736,312 คัน การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 746,190 คัน ศูนย์บริการร่วมคมนาคม จำนวน 47,658 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 6,375 คัน ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 17,003 คัน ชำระผ่านธนาคาร จำนวน 8 คัน
สำหรับผู้ที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เมื่อมีการชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกให้จัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ซึ่งจะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน หรือเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ก็ได้ โดยในระหว่างที่รอรับเอกสาร ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก
กรมการขนส่งทางบกแนะนำผู้ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีสามารถชำระล่วงหน้าได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน ทั้งนี้รถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์อายุการใช้งานเกิน 5 ปี รวมถึงรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชนก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับการชำระภาษีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สามารถโทร.สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
