ผู้จัดการรายวัน 360 – “มณียาคอนเซพทส์” เตรียมขยายพอร์ทโฟลิโอสินค้า ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น เมคอัพ ซุ่มเจรจาแบรนด์อื่นของวีเอฟกรุ๊ป เจ้าของแบรนด์คิปลิงก์ ที่ทำตลาดอยู่แล้ว ด้านคิปลิงก์ปีนี้่คาดเติบโต 30%
นางสาวศีกัญญา ศักดิเดชภาณุพันธ์ บริษัท มณียาคอนเซพทส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายพอร์ทโฟลิโอสินค้าด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ปัจจุบันนี้เป็นผู้ถือสิทธิ์และจัดจำหน่ายแบรนด์ คิปลิงก์ ( Kipling )จากประทศเบลเยี่ยม ในไทยเพียงแบรนด์เดียว ซึ่งคิปลิงก์ก็เป็นหนึ่งในหลายแบรนด์ของเครือ วีเอฟกรุ๊ป (VS GROUP) ที่มีมากกว่า 10 แบรนด์ และมีหลายแบรนด์ที่มีผู้ทำตลาดในไทยอยู่แล้วด้วย
บริษัทฯก็มีความสนใจในอีกหลายแบรนด์ที่ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดในไทยของวีเอฟกรุ๊ป อย่างต่ำ2 แบรนด์ โดยที่ไม่เกี่ยวกับแบรนด์ที่ทำตลาดในไทยอยู่แล้ว โดยขณะนี้ก็ได้เริ่มมีการศึกษากันบ้างแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีความสนใจแบรนด์อื่นนอกเครือวีเอฟด้วย โดยเน้นไปที่กลุ่มสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ เมคอัพ เป็นต้น รวมแล้ว 3 – 5 แบรนด์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นได้ภายใน 1 – 2 ปีจากนี้
นายนอร์ท เลิศธนอารีย์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวในส่วนของแบรนด์ คิปลิงก์ ว่า ช่วงแรกที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่่านมาในช่วงแรกได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ยอดขายตกลง 50% แต่สถานการณ์เริ่มดีขึ้นหลังจากนั้นเพียงปีเดียว โดยปี2564 ยอดขายก็เริ่มกลับมาเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30% จากการปรับตัวปรับกลยุทธ์ของแบรนด์
โดยเฉพาะการขยายช่องทางจำหน่ายไปยังออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยทำมาบ้างแล้่วแต่ไม่ได่เน้นมากนักเหมือนช่วงที่่เกิดโควิด ซึ่งช่องทางนี้ที่ขยายไปเช่น ไลน์ช้อปปิ้ง ลาซาด้า ช้อปปี้ เฟซบุ๊ก ซึ่งเติบโตทุกแพลตฟอร์ม โดยขณะนี้มีสัดส่วนยอดขายทางออนไลน์แลอีคอมเมิร์ซ ประมาณ 10% แล้วจากยอดขายรวม
อย่างไรก็ตามในส่วนของช่องทางร้านคาปลี่กแบบออฟไลน์นั้น บริษัทฯไม่ได้เน้นขยายเพิ่มมากเท่าไรนัก เนื่องจากมีกระจายครอบคลุมอย่างทั่วถึงแล้ว โดยมีร้านค้าปลีกคิปลิงก์ จำนวน 17 สาขา ตามศูนย์การค้า และจุดขายที่เป็นเคาน์เตอร์ในห้างอีก 53 แห่ง หรือถ้ามีเพิ่มก็ไม่ได้มากนัก แต่จะมีการรีโนเวทสาขาเดิมต่อเนื่อง
กลยุทธ์ของคิปลิงก์ ก็จะเน้นท้ง้การทำตลาด การออกสินค้าใหม่ และการทำคอลลาบอเรชั่นกับแบรนด์อื่นเนื่อง ซึ่งประสบความสำเร็จมาอย่างมากในการทำที่ผ่านมาทุกครั้ืงซึ่งเป็นไปตามนโยบายของโกลบอลรายชื่อ พาร์ตเนอร์ที่คิปลิงก์เคยออกคอลเล
คชั่นด้วยเช่น Anna Sui -2021, Doraemon-2022, Hello Kitty -2022, Barbie-2023 และMiffy -2023 เป็นต้น
“ตลาดเดิมของเรา ที่เป็นผู้หญิงตอนนั้นยังมีอายุไม่มาก แต่เมื่อเราทำตลาดคิปลิงก์ในไทยมานานกว่า 25 ปีแล้ว ขณะนี้ลูกค้ากลุ่มเดิมก็เริ่มมีอายุมากขึ้น เราจำเป็นที่จะต้องขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพื่อให้สินค้ามีการเติบโต เราต้องรีเฟรชแบรนด์ ต้องทำการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุลดลงมาระหว่าง 20-30 ปีมากขึ้น ส่วนลูกค้าตอนนี้สัดส่วนคนไทย 90% และต่างชาติ 10% ระดับราคา เริ่มที่พันกว่าบาทขึ้นไป ซึ่งปีหน้าตัวลิงขนที่เป็นเอกลักษณ์ก็จะกลับมาทำตลาดอีกครั้ง” นายนอร์ท กล่าว
ทั้งนี้ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 30% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 350 ล้านบาท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกก็เติบโตตามเป้าหมายที่่ 30% และคาดว่าจะมีรายได้รวม 500 ล้านบาท ในช่วง 4 ปีจากนี้