“พาณิชย์” ถกปลัดกระทรวงการค้าภายในและค่าครองชีพของมาเลเซีย จับมือส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ หนุนผู้ประกอบการสองฝ่ายเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อหาพันธมิตรทางการค้า การจับคู่ธุรกิจ พร้อมเร่งฟื้นฟูการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกทางการค้า หวังดันมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาทปี 68 เตรียมชงเวที JTC ระดับรัฐมนตรีปลายปีนี้หารือกันต่อ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พบหารือกับดาตุ๊ก อัซมัน บิน โมฮัมหมัด ยูโซฟ ปลัดกระทรวงการค้าภายในและค่าครองชีพมาเลเซีย และคณะ โดยมี ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นายกำแหง กล้าสุคนธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าร่วม โดยได้หารือถึงความร่วมมือด้านการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ การกำกับดูแลการค้าภายในประเทศให้มีความเป็นธรรม และการฟื้นฟูการค้าชายแดน เพื่อให้การค้าทั้งสองฝ่ายบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 102,000 ล้านบาท ในปี 2568
ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจแฟรนไชส์ มาเลเซียแจ้งว่ามีความสนใจที่จะร่วมมือเพื่อส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์กับไทย ซึ่งถือเป็นประเด็นใหม่ที่ยังไม่เคยมีความร่วมมือระหว่างกันมาก่อน โดยจะเริ่มจากการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์เข้าร่วมงานแสดงสินค้าของแต่ละฝ่าย เพื่อสร้างโอกาสขยายพันธมิตรทางการค้า การจับคู่ทางธุรกิจ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องขั้นตอนและกฎระเบียบเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์
“มาเลเซียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ของไทย โดยเฉพาะสาขาอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งปัจจุบันแฟรนไชส์ของไทยที่อยู่ในตลาดมาเลเซีย จำนวน 6 ราย ได้แก่ อเมซอน แบล็คแคนยอน กาแฟดอยช้าง ตำมั่ว บาบีก้อน และสมาร์ทเบรน ส่วนแฟรนไชส์ของมาเลเซียที่อยู่ในไทยมีประมาณ 6 ราย เช่น Secret Recipe Laundry Bar และ Unisense” นางอรมนกล่าว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังจะเร่งฟื้นการค้าชายแดนและเศรษฐกิจท้องถิ่นแถบพรมแดน ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน และการอำนวยความสะดวกทางการค้า ซึ่งจะช่วยให้มูลค่าการค้าระหว่างกันบรรลุตามเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยจะหารือเพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ระดับรัฐมนตรี ซึ่งมีแผนจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในโลก เป็นอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มอาเซียน และเป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย โดยในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย มีมูลค่า 27,196 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 12.91% ไทยส่งออกไปมาเลเซีย มูลค่า 12,687 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 5.06% และไทยนำเข้าจากมาเลเซีย มูลค่า 14,509 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 20.79% ขณะที่การค้าชายแดนคิดเป็นสัดส่วน 35% ของการค้ารวมระหว่างสองประเทศ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ และแผงวงจรไฟฟ้า