ผู้จัดการรายวัน 360 - ล็อกซเล่ย์เผยแผนสร้างสมดุลพอร์ตธุรกิจ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเสริมเสถียรภาพองค์กร เร่งผลักดันธุรกิจเทรดดิ้ง สร้างโอกาสจากตัวแทนจำหน่ายสู่ผู้ร่วมลงทุน พร้อมต่อยอดธุรกิจอาหาร ขยายสาขาร้าน “วาคิว ยากินิคุ” (WaQ Yakiniku) บุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมียมเปิดสาขาใหม่ที่เอเชียทีคฯ
นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมาล็อกซเล่ย์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความหลากหลาย พยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกเรื่อง มาเป็นการให้ความสำคัญใน 5 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีความชำนาญ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเน็ตเวิร์กโซลูชันส์ ซึ่งเหล่านี้ดำเนินงานธุรกิจในลักษณะงานโครงการเป็นหลัก และอีก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจบริการ และธุรกิจเทรดดิ้ง ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring)
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ารายได้ของล็อกซเล่ย์ส่วนใหญ่มาจากงานโครงการ ซึ่งมีความไม่แน่นอน เพราะมีความเสี่ยงอันเนื่องจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทฯ จึงมีนโยบายสร้างความมั่นคงในเรื่องรายได้ และการสร้างความสมดุลของพอร์ตธุรกิจ โดยพยายามเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำให้มากขึ้น ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาสายธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปีที่แล้วธุรกิจเทรดดิ้งมีรายได้ 4,831 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 38% ของรายได้รวม 13,220 ล้านบาท สืบเนื่องจากการขยายธุรกิจเดิมที่มีอยู่ และสร้างธุรกิจใหม่ที่ส่งเสริมหรือเกื้อหนุนธุรกิจหลักที่ทำอยู่
ซีอีโอล็อกซเล่ย์กล่าวอีกว่า ในสายธุรกิจเทรดดิ้ง มีบริษัทหลักที่สำคัญคือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเราพยายามสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการปรับบทบาทจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย สู่การเป็นผู้ร่วมลงทุน นอกจากนี้ยังมีอีก 2 บริษัท คือ บริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด ให้บริการด้านร้านอาหาร และบริษัท สยามสมุทรวาริน จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่ม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง)
นายสุรชกล่าวว่า บริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการร้านอาหารไทยฟิวชั่นส์ แบรนด์ “ตำรับกูร์” จำหน่ายเฉพาะออนไลน์ และร้านวาคิว ยากินิคุ (WaQ Yakiniku) บุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้ง 3 สาขา ได้แก่ 1. สาขาเอสพลานาด รัชดา 2. สาขาดิ เอ็กซ์เพลส กาญจนาภิเษก และ 3. สาขาเดอะ การ์เด้น คลองเตย (ข้างอาคารล็อกซเล่ย์ คลองเตย) และเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ
ล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ที่ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบเมนูบุฟเฟต์ปิ้งย่างในย่านเจริญกรุงและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เริ่มกลับมา หลังจากสถานการณ์โควิดที่ค่อนข้างผ่อนคลาย
ทั้งนี้ ร้านวาคิว ยากินิคุ สาขาเอเชียทีค ตั้งอยู่บริเวณข้างหอนาฬิกา หน้าโกดัง 3 ตกแต่งในสไตล์โคซี คุมโทนด้วยสีแนวเอิร์ทโทนดูอบอุ่นสบายตา เข้ากันกับดีไซน์ร้านที่แฝงความโมเดิร์นไม่ตกยุค สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 80 ที่นั่ง
นอกจากเมนูที่มีให้เลือกหลากหลายแล้วร้าน WaQ Yakiniku ทั้ง 4 สาขายังคงส่งมอบการสั่งอาหารที่ปลอดภัยและสะดวกสบายกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ด้วยการสแกน QR Code ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อดูเมนูและเลือกอาหารจากอุปกรณ์ของตนเอง โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้อย่างสะดวกและไร้สัมผัส อีกทั้งยังเป็นส่วนตัวอีกด้วย