APX สตาร์ทอัพธุรกิจเครือข่ายการขนส่งรถบรรทุกแบบไม่เต็มคัน(LTL) ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Pre-Series A จากกองทุน กองทุน iSeed SEA และกองทุน ORZON Ventures มุ่งเป้าพัฒนาโซลูชันการขนส่งทางรถบรรทุก พร้อมบุกตลาดอาเซียน
APX สตาร์ทอัพธุรกิจเครือข่ายการขนส่งทางรถบรรทุกแบบไม่เต็มคัน( LTL)ของไทย ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Pre-Series A จากกองทุน iSeed SEA และกองทุน ORZON Ventures ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพจัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และ 500 Global
Mr. Uwe Dettmann (CEO & Founder) กล่าวว่า ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริษัทและผู้ก่อตั้ง APX ที่เราได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก ORZON Ventures ที่ไว้วางใจในวิสัยทัศน์และเป้าหมายของบริษัท เงินทุนที่เราได้รับในครั้งนี้จะช่วยให้ APX สามารถคงอยู่ในแถวหน้าของวงการการขนส่งทางรถบรรทุกได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและ product ใหม่ ๆ ที่จะมีประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางบกในภูมิภาคนี้
เราวางแผนที่จะขยายทีมงาน และเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มจากเงินทุนที่ได้รับ นอกจากนี้ APX กำลังมองหาความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น สร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าและสมาชิกรถบรรทุกในเครือข่าย
การที่ได้รับการสนับสนุนจาก ORZON Ventures ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำให้การระดมทุนรอบนี้สำเร็จได้ ขอขอบคุณที่เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของเราและมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตของ APX ในทุก ๆ ก้าวหลังจากนี้ การระดมทุนรอบนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง Milestone สำคัญของ APX เราจะพัฒนาต่อไป และผมมีความเชื่อมั่นว่าเรามีทีมงานและกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่จะทำให้เป้าหมายของ APX เป็นจริง
APX (Asia Pallet Express) ให้บริการขนส่งสินค้าแบบ Door-to-Door ผ่านแพลตฟอร์มการขนส่งที่ทันสมัยด้วยบริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มคัน หรือ LTL (less-than-truckload) รวมถึงใช้พาเลทในการจัดส่งสินค้า APX มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายขนส่งทางถนนที่เชื่อมต่อกันในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดการปล่อยก๊าซ CO2 และจำนวนรถบรรทุกบนท้องถนนในระยะยาว
ในปัจจุบัน APX สามารถให้บริการรองรับการขนส่งจากทุกที่ไปยังทุกปลายทางในประเทศไทยแล้ว และในอนาคตมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์
นายสรวิศ ตันตระกูลเจริญ (COO) กล่าวถึงการระดมทุนในครั้งนี้ว่า เราได้รับการสนับสนุนจาก ORZON Ventures ในการระดมทุนในรอบนี้ เราได้ติดต่อไปหานักลงทุนเป็นจำนวนมากแต่ในบรรดานักลงทุนทั้งหมด ORZON Ventures เป็นพาร์ทเนอร์ที่เราอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด เนื่องจากทาง APX ได้เล็งเห็นถึงซินเนอร์จี้ที่ประสานกันอย่างลงตัว โดยคาดว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ APX ทั้งโอกาสในการขยายการให้บริการขนส่ง อีกทั้งเพิ่มความน่าเชื่อถือและสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดผู้ให้บริการรถบรรทุกมาร่วมวิ่งรถในเครือข่ายของ APX ไม่เพียงเท่านี้ การบริการขนส่งด้วยโซลูชันการวิ่งรถแบบเครือข่าย (LTL Network) ของ APX นั้นจะช่วยยกระดับคุณภาพการให้บริการขนส่ง การจัดการโลจิสติกส์ อีกทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าให้กับธุรกิจ SME ที่มีจำนวนมากในประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน สร้างช่องทางการขายใหม่ ๆ และช่วยลดต้นทุนค่าจัดส่งสินค้า
ดังนั้นการลงทุนจากกองทุน ORZON Ventures ในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ APX เป็นเครือข่ายขนส่งทางรถบรรทุกชั้นนำของไทย และเป็นรากฐานให้การขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ใน SEA เป็นไปอย่างเข้มแข็งและมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้ที่ APX จะเริ่มให้บริการขนส่งภายใน และระหว่างประเทศในพื้นที่ประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ Managing Partner กองทุน ORZON Ventures กล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ว่า โมเดล LTL ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในแถบยุโรป แต่ในภูมิภาคอาเซียนยังไม่มีผู้เล่นมากนัก และมีความท้าทายที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละประเทศ ผมจึงเห็นถึงโอกาสในการลงทุนในด้านนี้ ด้วยศักยภาพของทีมผู้ก่อตั้ง APX ที่มีความเชี่ยวชาญ เครือข่าย ความเข้าใจตลาดโลจิสติกส์ และความมุ่งมั่นทุ่มเท ผมเชื่อว่า APX จะสามารถขยายธุรกิจไปในระดับภูมิภาคได้ เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งและมอบโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มจากพื้นที่ว่างภายในรถขนส่ง พร้อมสร้างคุณค่าให้กับผู้ประกอบการ SME ให้สามารถใช้บริการโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ เป็นโมเดลที่ผู้ที่เกี่ยวข้องล้วนได้รับผลประโยชน์ เติบโตไปร่วมกัน
APX มีเป้าหมายเป็นส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับบริษัทขนส่งทางรถบรรทุกทั่วไทยในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการสร้างเครือข่ายการขนส่งทางถนนในประเทศไทยและทั่วอาเซียนให้เกิดความยั่งยืน ทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในซัพพลายเชน
