ผู้จัดการรายวัน 360 - “เพรซิเดนท์ เบเกอรี่” ลุยหนักหลังโควิดซา อัดงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทเพิ่มกำลังการผลิต “ฟาร์มเฮาส์” อีกไม่ต่ำกว่า 15% รับตลาดขนมปังเบเกอรีโตดี พร้อมลุยขยายช่องทางจำหน่ายทุกรูปแบบไปแล้วกว่าหมื่นจุดปีที่แล้ว และเตรียมเพิ่มคลังสินค้าให้ครบเป็น 60 แห่งภายใน 2-3 ปี
นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมปังและเบเกอรีแบรนด์ “ฟาร์มเฮาส์” และอื่นๆ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนไม่ต่ำกว่า 500-1,000 ล้านบาท ในปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า เพื่อเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตขนมปังและเบเกอรีอีกไม่ต่ำกว่า 15% จากกำลังการผลิตเดิมที่มีกำลังการผลิตประมาณ 2 ล้านชิ้นต่อวัน จากโรงงานผลิตเดิมทั้งที่ลาดกระบังกับบางชัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขยายช่องทางในการจำหน่ายมากขึ้นด้วย ทำให้ต้องมีสินค้ากระจายเข้าส่่ตลาดเต็มที่ โดยปีที่แล้วได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายต่างๆ ท้ังร้านค้าสมัยใหม่ ร้านค้าดั้งเดิมทั่วไป และร้านกาแฟ ร้านอาหาร เป็นต้น ได้มากกว่า 10,000 จุด ส่งผลให้ปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายทุกรูปแบบไม่ต่ำกว่า 60,000 จุดจำหน่ายแล้ว
บริษัทฯ ยังคงขยายจุดจำหน่ายต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะช่องทางที่เป็นพวกร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ ที่มีการเติบโตอย่างมาก ส่งผลดีต่อเบเกอรี่และขนมปังที่เติบโตตามไปด้วย อีกทั้งช่องทางที่เป็นตู้เวนดิ้งแมชชีนจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและช่องทางออนไลน์ก็มีจำหน่ายด้วย ปัจจุบันมีสัดส่วนช่องทางแบบโมเดิร์นเทรดประมาณ 40% และช่องทางแบบเทรดิชันนัลเทรด 60%
นอกจากการขยายกำลังการผลิตแล้ว ยังวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มคลังสินค้าให้ครบเป็น 60 แห่งภายใน 2-3 ปีจากนี้ ลงทุนแห่งละประมาณ 40-50 ล้านบาท จากขณะนี้มีประมาณ 50 แห่ง รวมทั้งยังต้องทำการออกสินค้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความหลากหลาย และสร้างโอกาสในการขาย กระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคให้มีทางเลือกที่หลากหลายด้วย ขณะนี้มีมากกว่า 100 เอสเคยู โดยแต่ละปีจะออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 เอสเคยู ที่ผ่านมาไม่นานนี้ก็ออกใหม่ เช่น คิวบ์ปัง พายสังขยามะพร้าว ขนมปังหน้ามอคค่า เป็นต้น ซึ่งจะเน้นทั้งสินค้าที่ดีต่อสุขภาพกับสินค้าที่มีความอร่อยควบคูู่กันไป ซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตขนมปังรายแรกที่ได้รับโลโก้ทางเลือกเพื่อสุขภาพ
นายอภิเศรษฐกล่าวด้วยว่า การทำตลาดในปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปพอสมควร เนื่องจากบริษัทได้หันมาขยายฐานกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่และเป็นเด็กวัยรุ่นมากขึ้นด้วย ทำให้ต้องมีการทำตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่เด็กและวัยรุ่นโดยเฉพาะ เช่น การใช้พรีเซ็นเตอร์ การทำหนังโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย การสร้างแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ผ่านตัวคาแรกเตอร์ที่ชื่อว่า ฟูมิ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน
“ที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน เรื่องค่าขนส่ง และวัตถุดิบผลิตบางอย่าง เราก็ต้องประคองตัว ปรับวิธีการทำงาน เพื่อไม่ให้กระทบต้นทุนมากกว่านี้อีก แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้าง โดยปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโตที่ 10% จากยอดรายได้รวม 6,000- 7,000 ล้านบาทปีที่แล้ว ส่วนช่วงโควิดที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยปีละ 3%-5%” นายอภิเศรษฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทฯ เคยมีแผนว่าบริษัทฯ จะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท เพื่อการลงทุนครั้งใหญ่ในการสร้างโรงงานการผลิตใหม่อีก พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 30,000 ตารางเมตร มองจำนวนเครื่องจักรประมาณ 5-6 ไลน์การผลิต เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการตลาดขนมปังและเบเกอรีที่เติบโตดี โดยเฟสแรกจะใช้งบ 2,000 ล้านบาทก่อน แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้โครงการดังกล่าวต้องชะลอออกไปก่อน