xs
xsm
sm
md
lg

อัปเกรด FTA อาเซียน-จีนคืบหน้า ทั้งเปิดตลาดสินค้า เสรีลงทุน ร่วมมือเศรษฐกิจสาขาใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยผลการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) รอบที่ 3 มีความคืบหน้า ทั้งแนวทางการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม การเปิดเสรีด้านการลงทุน การขยายความร่วมมือสาขาใหม่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสีเขียว ดิจิทัล MSMEs การคุ้มครองผู้บริโภค ตั้งเป้าสรุปผลภายในปี 67

นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) รอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้ทำหน้าที่ประธานร่วมของฝ่ายอาเซียน และเป็นประธานการประชุมร่วมกับนายหวี เปิ่น หลิน อธิบดีกรมการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน โดยการเจรจารอบนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก อาเซียนและจีนได้เริ่มเจรจาปรับปรุง ACFTA ในหลายประเด็น เพื่อให้ความตกลงมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งเรื่องแนวทางการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม การเปิดเสรีด้านการลงทุน และการคุ้มครองการลงทุน รวมทั้งขยายความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย การแข่งขันและการคุ้มครองผู้บริโภค และความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและวิชาการ

ทั้งนี้ จีนได้ให้ความสำคัญต่อการเจรจายกระดับความตกลง ACFTA อย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยในช่วงพิธีเปิดการเจรจา ผู้บริหารระดับสูงของจีน เช่น นายหวัง หวี่ ปอ ผู้ว่าการมณฑลยูนนาน และนายหวัง โช่ว เหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์เพื่อแสดงเจตจำนงที่จะเร่งผลักดันให้การเจรจายกระดับความตกลง ACFTA ได้ข้อสรุปให้ได้ภายในปี 2567 ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จจะทำให้การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค

นอกจากนี้ อาเซียนและจีนยังได้ประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน หรือ ACFTA-JC ครั้งที่ 16 เพื่อติดตามการดำเนินการตามพันธกรณีของความตกลง ACFTA ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2548 โดยที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้มาตรการที่มิใช่ภาษีที่เป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างจีนกับสมาชิกอาเซียน ซึ่งได้มอบให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับการส่งออก-นำเข้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมระหว่างอาเซียนกับจีน เพื่อหาทางออกเรื่องนี้โดยเร็ว

ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียนมาตั้งแต่ปี 2552 โดยในปี 2565 การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนมีมูลค่า 715,156.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% โดยอาเซียนส่งออกไปจีน มูลค่า 288,920.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาเซียนนำเข้าจากจีน มูลค่า 426,235.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 105,404.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.53% โดยไทยส่งออกไปจีน มูลค่า 34,389.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากจีน มูลค่า 71,014.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน เช่น ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และยางพารา ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญจากจีน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น