ผู้จัดการรายวัน 360 - การเปิด Pop-up Store ได้กลายเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมและถูกนำมาใช้สำหรับการสร้างแบรนด์และแนะนำสินค้า โดยเฉพาะกลุ่ม Luxury Brand ที่ใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการนำเสนอคอนเซ็ปต์ใหม่และคอลเลคชั่นพิเศษ เพราะสามารถมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพื่อดึงดูดให้ผู้คนและกลุ่มเป้าหมายได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ร่วมกับสิ่งที่แบรนด์ได้มอบให้โดยตรง การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience - CX) ที่น่าดึงดูดใจ เป็นหนึ่งในวิถีทางที่จะนำเสนอภาพลักษณ์และความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง การออกแบบจะช่วยแสดงจุดยืนของแบรนด์ ซึ่งจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตส์ของคนรุ่นใหม่ ที่นิยมความแปลกใหม่ เต็มไปด้วยเรื่องราว ความมีชีวิตชีวา มีสีสันตื่นตาตื่นใจ สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่ทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในกระแสของกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว
สยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจาก กลุ่ม Luxury Brand จนกลายเป็นหมุดหมายในการเปิดแฟล็กชิพสโตร์และ Pop-up Store ที่มีความหลากหลาย ครบครันมากที่สุด แบรนด์หรูต่างเลือกเปิดในพื้นที่ของสยามพารากอน และไอคอนสยาม ซึ่งปี 2023 เพียงครึ่งปี มีอัตราการเปิด Pop-up store จำนวนรวม 14 ป๊อปอัพแล้ว เทียบเท่าปี 2022 ตลอดทั้งปีที่มีประมาณ 17 ป๊อปอัพ
สยามพารากอน และไอคอนสยามคือ สถานที่ที่มีความครบครันที่สุดของประเทศ ทั้งด้านการนำเสนอสินค้าและบริการที่สามารถสร้าง Traffic ปริมาณลูกค้าที่หลากหลายทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 350,000-450,000 คนต่อวัน ภาพลักษณ์ความพรีเมี่ยมเหมาะสมกับจุดยืนของแบรนด์ และสามารถครองใจนักช้อปฯ จากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างมุ่งตรงมาเพื่อเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ในแบบเหนือระดับของแบรนด์ชั้นนำที่หมุนเวียนกันมาเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็นคอลเลคชั่นพิเศษ limited edition คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากรันเวย์ที่มีให้เลือกชมและช้อปฯ ก่อนใคร หรืองาน Exhibition พิเศษต่างๆ ตลอดทั้งปี
ด้วยกระบวนการทำงานอย่างใกล้ชิดของทีมงานสยามพิวรรธน์กับกลุ่มลูกค้าลักซ์ซูรี่แบรนด์ จึงทำให้สามารถถ่ายทอดคอนเซ็ปต์และช่วยเสริมทำให้การนำเสนอคอลเลคชั่นใหม่เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการสนับสนุนในทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์การทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ดังนั้น การมาเปิด Pop-up Store ของลักซ์ซูรี่แบรนด์ดังจึงมียอดขายที่ดีกว่าที่ตั้งไว้ หากพิจารณาจากจำนวนความถี่ในการจัดงานของแบรนด์ลักซ์ซูรี่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีอัตราเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี มีความต้องการพื้นที่จัดกิจกรรมและเวลาในการจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น บางแบรนด์ที่เคยมาเปิด Pop-up Store ก็กลับมาเปิดอีกในความถี่ที่เพิ่มมากกว่า 1 ครั้งต่อปี มีการลงทุนด้านการจัดแสดงสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น และขยายพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ ยอดการจับจ่ายของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมและสัมผัสกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
แบรนด์ระดับโลกต่างพาเหรดกันมาเปิด Pop-up Store หรือ Flagship Store ทั้งที่สยามพารากอนและไอคอนสยามเป็นที่แรกของประเทศหรือภูมิภาคอาเซียน คือสิ่งที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำของการสร้างประสบการณ์ลักซ์ซูรี่แบบเหนือความคาดหมาย และสะท้อนความเชื่อมั่นที่ลักซ์ชูรีแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมีต่อกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และยังยกระดับประเทศไทยขึ้นเป็น Global Luxury ในกลุ่มตลาดลักซ์ชูรีเทียบเท่าระดับโลก
ล่าสุดแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง BOTTEGA VENETA ที่มาเปิดตัว Pop-up Store แห่งใหม่ใจกลางเมือง ณ พาร์ค พารากอน เพื่อจัดแสดงผลงานการออกแบบคอลเล็กชั่นล่าสุด และ CELINE ที่ได้เลือกมาปักหมุดเปิด Pop-up พิเศษสำหรับแคปซูลคอลเล็กชั่นใหม่ ณ ไอคอนสยาม รวมถึง DOLCE & GABBANA และ VERSACE ที่มาเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ณ สยามพารากอน เช่นกัน และก็จะมีอีกหลายแบรนด์ดังพาเหรดกันมาเพื่อที่จะร่วมส่งมอบปรากฎการณ์อันตื่นตาตื่นใจ
การสร้างประสบการณ์ลักซ์ซูรี่ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ยังได้ขยายไปยังคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “Luxury for All” ซึ่งเป็นการถ่ายทอดคุณค่าความลักซ์ซูรี่ในมุมมองใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงและสัมผัสกับปรากฎการณ์สุดพิเศษแบบเหนือระดับ อันเป็นการสร้างคุณค่าที่เติมเต็มตามความต้องการของแต่ละคน (Individual Fulfillment) ไม่ว่าจะเป็นในด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ดนตรี ศิลปะ อาหาร ท่องเที่ยว เทคโนโลยี และประสบการณ์เฉพาะตัวอื่นๆ ที่ตอบรับความต้องการของกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานภาพให้ทุกคนได้สามารถร่วมสัมผัสและเข้าถึงความลักซ์ซูรี่ได้ในหลากหลายมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและสามารถเป็นการให้รางวัลให้กับชีวิตได้ในสถานที่แห่งนี้
