“กกพ.” แย้มตัวเลขค่าไฟงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) ที่จ่อเคาะภายในเดือนก.ค.นี้ อาจลดลงได้ 20 สตางค์ต่อหน่วยจากปัจจุบันค่าไฟเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย เหตุต้องใช้หนี้กฟผ.ที่ต้องแบกรับแทนประชาชนก่อนหน้านี้ถึง 1 แสนล้านบาท
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 ว่า สำนักงาน กกพ.อยู่ระหว่างการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ทั้งหมดเพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการ Ft ในช่วงต้นเดือน ก.ค. 2566 ก่อนที่จะสรุปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กกพ.(บอร์ด กกพ.) เห็นชอบไม่เกินเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งเบื้องต้นจากประมาณการราคา Pool Gas ที่ บมจ.ปตท.รายงานล่าสุดมีการปรับตัวลดลง 55.5 บาทต่อล้านบีทียู และหากต้องชำระคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามที่เคยเสนอไว้งวดละประมาณ 20,000 ล้านบาทจะทำให้ค่าไฟ Ft งวด ก.ย.-ธ.ค.นี้จะลดลงได้อย่างน้อย 20 สตางค์ต่อหน่วย
“ค่าไฟมีโอกาสจะลดลงอย่างต่ำ 20 สตางค์ต่อหน่วย จากประมาณค่าไฟลดลงรวม 48 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากต้องนำ 28 สตางค์ต่อหน่วยคืนหนี้ กฟผ.ที่รับภาระค่าไฟแทนประชาชนกว่า 1 แสนล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา” นายคมกฤชกล่าว
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าไฟงวดปลายปีลดลงเนื่องจากราคาเนื้อก๊าซธรรมชาติ เฉลี่ยจากทุกแหล่งทั้งอ่าวไทย เมียนมา และนำเข้าเฉลี่ยราคาลดลงเหลือ 323 บาทต่อล้านบีทียู จากงวดที่ผ่านมา (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ราคา 378 บาทต่อล้านบีทียู) ทั้งนี้ ปัจจุบันค่าไฟ (งวดพฤษภาคม-สิงหาคม 2566) อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย
โดยประเมินจากราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ลดลงเหลือระดับ 12-13 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ขณะที่ปริมาณก๊าซอ่าวไทยจะเพิ่มขึ้นระดับ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งราคาอ่าวไทยถูกต่ำกว่า 10 เหรียญต่อล้านบีทียูขณะที่ค่าเงินบาทระดับ 34 บาทต่อเหรียญ ราคาน้ำมันดิบระดับ 76 เหรียญต่อบาร์เรล และถ่านหิน 138 เหรียญต่อตัน
“สำนักงาน กกพ.ได้รับข้อมูลประมาณการคำนวณค่า Ft งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 จาก ปตท.แล้ว โดยจากปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อค่า Ft ตามปกติมาจาก 1. อัตราแลกเปลี่ยน 2. น้ำมันดิบ Brent 3. Pool Gas/ราคา LNG Spot และ 4. Generation Mixed แต่ที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมจากปกติ คือ 1. การคืนภาระหนี้ให้ กฟผ. 2. การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติหรือ กพช. 3. ปริมาณก๊าซในอ่าวไทย/ก๊าซในเมียนมา/ ก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG และ 4. ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ตามสถานการณ์โลก ราคาถ่านหิน/น้ำมันเตา/น้ำมันดีเซล เป็นต้น” นายคมกฤชกล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นห่วงคือค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่แนวโน้มราคานำเข้า LNG จะเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มสภาพอากาศของยุโรป ก็อาจจะมาเฉลี่ยกับปริมาณก๊าซในอ่าวไทยที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยตรงนี้ก็ไม่อาจจะทำให้ค่าไฟลดลง แต่หากจะให้ลดลงมากกว่านี้หรือ 70 สตางค์ต่อหน่วย ก็สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนสูตร โดยให้ใช้ก๊าซในราคาเดียวกันหมด (Single Pool) ที่ให้คิดว่าทุกคนใช้ก๊าซเดียวกัน โดยขณะนี้สำนักงาน กกพ. ก็ได้เสนอแนวทางนี้ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน พิจารณา ซึ่งอาจจะต้องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ
