xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าไทย-จีนประกาศความสำเร็จความร่วมมือ เวทีการค้าไทย-ซานตง เปิดเส้นทางสร้างโอกาสทางธุรกิจ-การลงทุนเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในเวทีโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (13 มิ.ย.) นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลซานตง (CCPIT) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) หอการค้าไทย-จีน และสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนประจำประเทศไทย ได้ร่วมจัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน (ซานตง)-ไทย หรือ China (Shandong)-Thailand Business Co-operation and Matchmaking Conference โดยมีนายหวัง ลี่ผิง อัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย นายชนินทร์ ขาวจันทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายหลี่ เฟิง ผู้แทนสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนประจำประเทศไทย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน และแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวจีนและชาวไทยร่วมงาน เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือ และกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีน

“มิตรภาพระหว่างไทย-จีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ( RCEP) เป็นเขตการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ของโลก มีสมาชิก 15 ประเทศ เพื่อวางแนวทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุนในทุกขนาด สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง รวมไปถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใน “อุตสาหกรรม 4.0” และการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ “ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก” ของไทย ให้เชื่อมโยงกับโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือไทย-จีนมีอนาคตที่สดใส
ดังนั้นความร่วมมือไทยและซานตงจะเป็นการสร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจที่ไร้ขีดจำกัดทั้งด้านอุตสาหกรรมการผลิต สินค้าเกษตร การท่องเที่ยว พลังงานใหม่ และยางล้อ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้เป็นการขยายโอกาสสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ซานตง ที่เป็นช่องทางขยายตลาดระหว่างประเทศ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จด้านเทคโนโลยี การลงทุน และการพัฒนานวัตกรรมของจีนมาสู่ประเทศไทย เป็นการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมของไทย เกือบ 400 บริษัทจากซานตงและไทยได้ร่วมกันเจรจาแบบทวีภาคี “1 ต่อ 1”
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เป็นเวทีการประชุมจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นในประเทศไทยหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นเวทีทางการค้าครั้งสำคัญ สำหรับการลงทุนทางธุรกิจระหว่างไทยกับซานตง หอการค้าไทย-จีน ยินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อให้บริการที่ดีสำหรับการลงทุนและการพัฒนาวิสาหกิจของจีนในประเทศไทย ร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของไทยและจีน ตลอดจนอุทิศภูมิปัญญาและพลังสำหรับการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของซานตง และสร้างสรรค์ความทันสมัยแบบจีน” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

ด้าน ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ได้แนะนำการพัฒนาด้านการเกษตรและอาหาร ยางรถยนต์ อุปกรณ์เครื่องจักร วัสดุก่อสร้าง และอื่นๆ ของไทย ตลอดจนความต้องการร่วมมือกับจีน อีกทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างบริษัทจีนกับไทยบนพื้นฐานของการเติมเต็มซึ่งกันและกัน

“ในการประชุมมีบริษัทจีนและไทยกว่า 400 บริษัทจากสาขาอาหารเกษตร ยางรถยนต์ อุปกรณ์เครื่องกลและไฟฟ้า และวัสดุก่อสร้างเข้าร่วมประชุมเจรจา มีการเจรจา ณ ที่จัดงานกว่า 300 คู่ อีกทั้งมีการลงนามความร่วมมือมากกว่า 10 ฉบับทั้งของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานส่งเสริมการค้า และวิสาหกิจ คณะผู้แทนด้านเศรษฐกิจและการค้าของซานตงในครั้งนี้ประกอบด้วยวิสาหกิจในมณฑลซานตงเกือบ 100 บริษัท ซึ่งล้วนเป็นธุรกิจระดับหัวกะทิและขนาดใหญ่ ในบรรดาบริษัทเหล่านี้มี 22 บริษัทในกลุ่มจัดซื้อผลิตภัณฑ์และความร่วมมือด้านการลงทุนที่มีความตั้งใจชัดเจนที่จะจัดซื้อหรือประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะร่วมลงทุน มีบริษัทที่มีศักยภาพสูงในการเปิดตลาดและมีเทคโนโลยีขั้นสูง โดยแบ่งตามประเภทได้ 8 กลุ่ม คือ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องกลและไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริม กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (คอมโพสิต) กลุ่มยางล้อและชิ้นส่วนรถยนต์ กลุ่มสินค้าเกษตร อาหารและเครื่องจักรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ กลุ่มสุขภาพและการแพทย์ และกลุ่มเคมีภัณฑ์และอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมชั้นแนวหน้าต่างๆ เช่น Weichai Group, Inspur Group, Linglong Tyre, Lishen Power เป็นต้น และล้วนมีบทบาทในการเป็นต้นแบบ ตัวชี้นำ และมีอิทธิพลต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างซานตงกับอาเซียน” ดร.ไพจิตรกล่าว

นายหลิน หยวน รองประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลซานตง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเศรษฐกิจและการค้า “ASEAN Exploration Tour for Shandong Enterprises” กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นการนำฉันทามติสำคัญที่ผู้นำของทั้งสองประเทศบรรลุร่วมกันมาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้ซานตงได้สร้างคุณูปการต่อการเร่งสร้างชุมชนแห่งโชคชะตาร่วมและการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง โดยอาศัยการเพิ่มความร่วมมือเชิงลึกด้านเศรษฐกิจและการค้าในท้องถิ่น และส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างวิสาหกิจ

“อุตสาหกรรมของมณฑลซานตงและประเทศไทยมีความสอดคล้องกันอย่างมาก และมีศักยภาพอย่างมากสำหรับความร่วมมือระหว่างกัน หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเสริมความแข็งแกร่งในการเชื่อมโยงระดับกลยุทธ์ของการพัฒนา ส่งเสริมการพัฒนาของอุตสาหกรรมแบบบูรณาการ เพิ่มการส่งเสริมการค้าสองทาง ร่วมกันส่งเสริมข้อตกลงการค้าเสรีอย่างมีคุณภาพสูง เพื่อสร้างหน้าใหม่ของความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน (win-win)” รองประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลซานตง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเศรษฐกิจและการค้า” นายหลินกล่าว

นายหวัง ลี่ผิง อัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า มณฑลซานตงเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดอารยธรรมจีน และเป็นจุดตัดของเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของซานตงเป็นอันดับสามของประเทศ มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่ลุ่มลึกและพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ซานตงและไทยได้รักษาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในหลายๆ ด้าน การค้าของซานตงกับไทยคิดเป็น 8% ของปริมาณการค้าทั้งหมดระหว่างจีนกับไทย ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพในการเติมเต็มระหว่างกันได้ดีในด้านอุตสาหกรรมอาหารและสินค้าเกษตร อุปกรณ์เครื่องจักร วัสดุก่อสร้าง และอื่นๆ ทำให้ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายมีอนาคตที่สดใส หวังว่าวิสาหกิจของซานตงจะรักษาจิตวิญญาณของการสร้างนวัตกรรม ตอบสนองความต้องการด้านความเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ สำรวจความร่วมมือด้านใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล การรักษาสิ่งแวดล้อม การแพทย์ ฯลฯ บนพื้นฐานของการรักษาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในสาขาดั้งเดิม เพื่อสร้างคุณูปการต่อการพัฒนาด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมระดับไฮเอนด์ ระบบอัจฉริยะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของทั้งสองประเทศ และเพิ่มพลังใหม่ให้กับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับไทย
























กำลังโหลดความคิดเห็น