FutureSkill แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์สำหรับพัฒนาทักษะแห่งอนาคต นำเสนอองค์ความรู้ยุคใหม่สุดเข้มข้นและวิธีทำงานเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งต้องยอมรับว่าได้สร้างความท้าทายให้ผู้ประกอบการ และสั่นสะเทือนวิธีคิด รวมถึงรูปแบบการทำธุรกิจในทุกวงการ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจทุกองค์กร รวมไปถึงนักการตลาดยุคใหม่ (Digital Marketer) จึงควรอย่างยิ่งที่จะเพิ่มทักษะระดับสูงที่ตรงจุดตั้งแต่ Mindset ในรูปแบบใหม่ Digital Transformation เปรียบเสมือนการติดปีกให้ธุรกิจและแบรนด์ สามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงพลิกผันได้ในทุกวินาที พร้อมช่วยแก้ปัญหา และก้าวหน้านำคู่แข่ง จึงเป็นที่มาของ 2 หลักสูตรพิเศษล่าสุดที่ FutureSkill ได้ระดมเหล่ากูรูเกือบทุกวงการบนโลกดิจิทัลมาร่วมออกแบบหลักสูตร และเป็นวิทยากร ให้ความรู้เพื่อรับมือทุกปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบัน
โอชวิน จิรโสตติกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง FutureSkill เผยภาพรวมของโลกธุรกิจ ในยุคที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วว่า “จากผลวิจัยของมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ (University of Colorado at Boulder) ประเทศอังกฤษ พบว่า อายุขององค์กร หรือบริษัทในปัจจุบันมีแนวโน้มที่สั้นลง แม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ในระดับดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา (S&P 500) เองก็อาจมีอายุเฉลี่ยเพียง 15-20 ปีเท่านั้น เมื่อเทียบกับในอดีตที่ควรจะมีอายุธุรกิจยาวนานถึง 36-60 ปี การทำธุรกิจสมัยใหม่จึง เป็นเรื่องของปลาเร็วกินปลาใหญ่ ธุรกิจที่คล่องตัว สามารถนำ MarTech (Marketing - Technology) มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความได้เปรียบทางการตลาด เช่นการใช้เครื่องมือในการเก็บข้อมูลลูกค้าที่ละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อนำมาวิเคราะห์ และสื่อสารกับลูกค้าให้มีความต่อเนื่อง เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าอย่างละเอียด ธุรกิจที่สามารถใช้เครื่องมือในการขับเคลื่อนการทำธุรกิจทั้งการขาย และการตลาดได้แบบอัตโนมัติ (Automated) ก็เปรียบเสมือนปลาเร็ว ที่สามารถกินปลาใหญ่ได้จากการเลือกใช้กลยุทธ์และสมรภูมิที่ได้เปรียบ เรากำลังอยู่ในโลกที่หมุนไวที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีธุรกิจใหม่ที่เกิดและเติบโตขึ้นแบบทวีคูณ ขณะเดียวกัน ธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่คุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น Blockbuster, Kodak, Sears ก็ตายลงไปอย่างน่าตกใจ นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนน้อยของการปรับตัวไม่ทันกับโลกยุคใหม่ จนกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจที่ไม่มีใครอยากเผชิญ ดังนั้นเราจึงได้ร่วมมือกับ สมาคม Martech Association - Thailand นำโดย จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคม รวมถึง รศ.มานพ พงศทัต ในการสร้างสรรค์หลักสูตรแห่งอนาคตขึ้น เพื่อติดปีกให้ธุรกิจก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี”
“หากต้องการเปลี่ยนธุรกิจให้ทันยุคต้องเปลี่ยน 3 สิ่ง คือ เทคโนโลยี (Technology) วิธีการ (Process) และคนทำงาน (People) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเริ่มจาก "คนทำงาน" (People) ก่อนเสมอ และนี่คือเป้าหมายที่ FutureSkill ให้ความสำคัญและทำมาโดยตลอด นั่นคือ สร้างทักษะใหม่ที่ธุรกิจและตลาดงานต้องการในอนาคตให้แก่ประเทศไทย ในยุคที่ประเทศของเราต้องการมันสมองเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นมากที่สุด”
ด้าน จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคม Martech Association - Thailand กล่าวเสริมว่า “การตลาดคืออุตสาหกรรมใหญ่ที่สำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุดและแฝงอยู่ในเกือบทุกธุรกิจ การมาถึงของ Marketing - Technology คือกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูสู่ลูกค้า เพื่อเข้าใจและคว้าโอกาสจากความต้องการของลูกค้าได้ไวกว่าที่เคยมีมาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทในประเทศไทยกว่า 99% มีการนำ Marketing - Technology เข้ามาใช้ในการทำงานแล้ว เพียงแต่ยังมีการนำเครื่องมือของ MarTech มาใช้แค่ในส่วนงานคอนเทนต์ การทำโฆษณา ซึ่งอันที่จริงแล้ว เครื่องมือ MarTech ยังสามารถเข้าไปช่วยในด้านของการจัดการประสบการณ์ลูกค้า การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล การสื่อสาร และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อีกด้วย ซึ่งบริษัทเหล่านี้ยังสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างยอดขาย หรือเพิ่มคุณภาพของลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า สำหรับหลักสูตร CHIEF MARKETING TECHNOLOGIST ที่กำลังเปิดรับอยู่ในขณะนี้ เป็นหลักสูตรผู้นำนักการตลาดเทคโนโลยีระดับสูงแห่งอนาคต โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนหลัก ใช้ระยะเวลาเรียน 11 สัปดาห์ โดยได้รวบรวมผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการ มาแชร์ประสบการณ์และให้ข้อมูลแก่ผู้ที่เข้ารับการอบรม เช่น ณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน, แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ กรุงศรี ฟินโนเวต หรือ สุธีรพันธุ์ สักรวัตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปริญ เฟื่องวุฒิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสายงานเทคโนโลยีของกลุ่มบริษัท RS Group และอีกมากมาย โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้ผ่าน Cases Studies จากผู้มีประสบการณ์จริง พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์และเปิดมุมมองใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน เพื่อนำมาต่อยอดสู่การใช้งานจริงได้อย่างดีเยี่ยม”
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกลุ่มการตลาดที่ใหญ่และเก่าแก่ของประเทศไทย ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นั่นคือตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหากผู้ประกอบการหรือผู้บริหารปรับตัวไม่ทันก็อาจจะพลาดขบวนรถไฟที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อไปสู่จุดหมายของตลาดใหม่นี้อย่างน่าเสียดาย รศ.มานพ พงศทัต ประธานหลักสูตร RE-CU ได้กล่าวถึงหลักสูตร RECU The New Frontier ในครั้งนี้ว่า “การเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลหรือ Digital Disruption คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อทุกคน ทั้งในแง่ชีวิตประจำวัน การทำงาน และการทำธุรกิจ โดยได้เปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ การใช้แพลตฟอร์ม และเครื่องมือต่างๆ วิธีการเก่าๆ ถูกแทนที่ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยสร้างความสะดวกสบาย มีความแม่นยำ และรวดเร็ว เราสามารถนำ Digital Platform ต่างๆ มาช่วยพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ได้มากมาย เช่น ระบบสร้างภาพการเยี่ยมแบบ การใช้ระบบจำลองต่างๆ มาช่วยสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ในการพัฒนา วิเคราะห์ตลาด ติดตามพฤติกรรมลูกค้า และใช้สื่อที่ทันสมัย เพื่อเปลี่ยนแปลง และพัฒนาธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น” สำหรับหลักสูตร RECU The New Frontier เป็นหลักสูตรสำหรับผู้บริหารและผู้ประกอบการระดับสูงในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 11 สัปดาห์ มีเนื้อหา 3 ส่วน ได้แก่ การจินตนาการถึงยุคใหม่ของการออกแบบผลิตภัณฑ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์ (Re-Think) การปรับวิธีเข้าถึงประสบการณ์ของลูกค้าในโลกดิจิทัล (Re-Approach) และเปิดโอกาสใหม่ๆ เพื่อเป็นผู้นำวงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยการใช้เทคโนโลยี (RE-Invent Possibilities) ซึ่งหลังจากจบการเรียนในหลักสูตรนี้แล้ว ยังได้รับใบรับรองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย
ด้านดิศรา อุดมเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท Yell Advertising กล่าวทิ้งท้ายว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีในการทำงานโฆษณา หนึ่งในลูกค้าสำคัญคือ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวงการที่มีการพัฒนาตลอดในหลายมิติ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกวงการ ตั้งแต่การทำกลยุทธ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์ (Product led growth) ที่ต้องคิดตั้งแต่แรก จนมาถึงปลายน้ำอย่างการตลาด โฆษณา และการขาย หลักสูตรนี้จะมาช่วยทำให้แนวคิดการทำงานของอสังหาฯ ที่นำเทคโนโลยีอื่นๆ นอกเหนือจากการผลิตมาช่วยให้ปลายทางของการทำงานได้ผลลัพธ์ในเชิงธุรกิจที่ดีขึ้น”
ร่วมกันจุดประกายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง รวมถึงยกระดับธุรกิจและองค์กรในประเทศไทยให้ก้าวสู่โลกอนาคตไปด้วยนวัตกรรม และทักษะใหม่ๆ ไปพร้อมกัน เพื่อนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคง กับหลักสูตรการเรียนการสอนในการเสริมทักษะแห่งอนาคตได้ด้วยกัน
* หลักสูตร CHIEF MARKETING TECHNOLOGIST ระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน-9 กันยายน 2566 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://bitly.ws/FVt6
* หลักสูตร RECU THE NEW FRONTIER ระหว่างวันที่ 1 กันยายน-1 ธันวาคม 2566 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ page.fskill.co/re-cu
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรติดต่อ ประภาวี สมพงษ์ (แอม) 09-8592-3626 prapawee.s@likemeasia.com