xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจเปิดแคมเปญ “วันสิ่งแวดล้อมโลก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – องคร์กรธุรกิจหลากหลายเดินหน้ามาตรการ แคมเปญ ต่อเนื่องเพื่อรักษ์โลก ร่วมฉลอง วันสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อร่วมรณรงค์และกระตุ้นให้ผู้บริโภคร่วมมือกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดี


นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล Chief Development and Commercial Officer บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า ความคืบหน้าของโครงการ Journey to NET Zero 2050 ของเซ็นทรัลพัฒนามีความก้าวหน้าต่อเนื่องตามแผนในด้านต่างๆ อาทิ Energy การใช้พลังงานสะอาด ติดตั้ง Solar Rooftop สำเร็จแล้ว 50% ของจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยในปี2567 จะติดตั้งให้ครบทุกสาขา 100%, Water ลดการใช้น้ำ ใช้น้ำซ้ำ และนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมติดตั้งระบบผลิตน้ำรีไซเคิล จำนวนรวม 19 โครงการ, Waste สามารถแปลงขยะเพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบได้ปริมาณกว่า 18,000 ตัน สัมฤทธิ์ผลที่ร้อยละ 127 เทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และ Air ดูแลคุณภาพอากาศให้ได้มาตรฐาน และยกระดับมาตรการ PM2.5 เป็นต้น

ทั้งนี้แผนSustainability Story ของเซ็นทรัลพัฒนา ได้แก่

1. Renewable Energy: ผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ 19 เมกะวัตต์ จากการติดตั้ง Solar Rooftop, Solar Carpot และ Solar Street Light ตั้งเป้าภายในปี 2024 ผลิตได้ 39 เมกะวัตต์
2. Green Space & Forestation: ปลูกป่าซับคาร์บอนไปแล้ว 100,000 ต้น จากเป้าหมายปลูกป่าให้ประเทศไทย 1,000,000 ต้นในปี 2050
3. Water Saving: รีไซเคิลน้ำได้มากกว่า 500 ล้านลิตรต่อปี หรือเทียบเท่าสระว่ายน้ำโอลิมปิก 220 แห่ง
4. Waste Segregation: คัดแยกขยะได้ร่วม 20,000 ตันต่อปี จากโครงการ Journey to zero และการติดตั้ง Recycle Station เป็นจุดรับขยะแยก ตอบรับทั้งช้อปเปอร์ และ ร้านค้า พร้อมขยายจุดติดตั้งรวมกว่า 15 สาขาภายในปีนี้ มากที่สุด และเบอร์ 1 ในกลุ่มศูนย์การค้าไทย
5. EV Charging Station: ติดตั้งแล้ว 495 ช่องจอด นับเป็นจำนวนมากที่สุดและเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มศูนย์การค้าของไทย
เมื่อเร็วๆ นี้ เซ็นทรัลพัฒนา ยังได้จับมือกับ เอสซีจี ร่วมลงนาม MOU ในโครงการต้นแบบ Framework Pathway to Net Zero Building Guideline ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการจัดทำแผนแม่บทเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าชเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่ NET ZERO ในปี 2050 โดยมีโครงการนำร่องได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, แจ้งวัฒนะ, พัทยา, อยุธยา, นครปฐม, และนครสวรรค์”


นางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า “โลตัส มีการพัฒนา สินค้าภายใต้แบรนด์โลตัส ที่มีความโดดเด่นด้านมาตรฐาน ทั้งเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย ในราคา คุ้มค่า หนึ่งในเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเราเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์คือการช่วยให้ลูกค้าและประชาชน สามารถรีไซเคิลขยะได้อย่างง่ายและสะดวกขึ้น

ที่ผ่านมาโลตัสได้รณรงค์และส่งเสริมลูกค้าและ ประชาชนให้สามารถแยกและรีไซเคิลขยะได้อย่างสะดวกผ่านสาขาของโลตัส ตามแนวทางเศรษฐกิจ หมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมสนับสนุนนโยบายของภาครัฐด้านการบริหารจัดการขยะ เนื่อง ในวันสิ่งแวดล้อมโลกในปีนี้โลตสั เปิดตวัสินค้าใหม่ ถุงขยะแบรนด์โลตัส เกรด A แบบแยกประเภทขยะ ตามสีถุงขยะคุณภาพสูง เหนียว ทนทาน ในราคาคุ้มค่า 1 แพ็คประกอบดว้ ยถุงขยะ 3 สีที่ถูกออกแบบ ตามหลักการแยกขยะของกรุงเทพมหานคร
กล่าวคือ ถุงสีเหลืองสำหรับขยะรีไซเคิล ถุงสีฟ้าสำหรับขยะทั่วไป และถุงสีเหลืองส ำหรับขยะอินทรีย์หรือขยะอาหาร ช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถ แยกขยะได้ง่ายในครัวเรือน เพื่อการส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปบริการจัดการต่อได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สนับสนุนแนวทางไม่เทรวมของกทม. เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น


โดยผู้ที่สนใจสามารถช้อปถุง ขยะแบรนด์โลตัส ได้ที่โลตัสสาขาใหญ่ (ไฮเปอร์มารเ์ก็ต) ทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ผ่าน Lotus’s SMART App

สำหรับ โลตัสในบทบาทห้างค้าปลีกที่มี สาขากว่า 2,300 แห่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นศูนย์กลางที่เข้าถึงคนในชุมชนแต่ละพื้นที่ ก็พร้อม ช่วยขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ทั้งการพัฒนาสินค้าแบรนด์โลตัสบรรจภุ ัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ พร้อมเปิดพื้นที่เป็นจุดรับขยะหลากหลายประเภท เพื่อนนำไปมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำขยะบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล สร้างคุณค่า และประโยชน์คืนแก่สังคมต่อไป”


ทางด้านสยามดิสคัฟเวอรี่มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ จากร้าน ECOTOPIA ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับแบรนด์ Earthology ผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นโดยผลิตจากขวดพลาสติก ร่วมกันผลิตสินค้า Collection Concept Decarbonization อาทิ หมวก กระเป๋าผ้า เสื้อ โดยใช้วัสดุพลาสติกที่สยามพิวรรธน์รวบรวมจากพนักงานและในศูนย์การค้า นอกจากนี้ ECOTOPIA ร่วมกับ แสนสิริจัดกิจกรรม Workshop ในวันที่ 7 มิถุนายน 2566 โดยมี ลุงรีย์ ชารีย์ บุญญวินิจ ผู้ก่อตั้งฟาร์มลุงรีย์ มาสอนการปลูกผักและเก็บเกี่ยวพืชง่ายๆ และพบกับ Workshop พิเศษ Designing your decarbonized life ในวันที่ 24 มิถุนายน 2566 โดยสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน เพื่อร่วมกันปรับวิถีชีวิตให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้น้อยที่สุดอีกด้วย


นายสุทธิชัย บัณฑิตวรภูมิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “ทางศูนย์ฯ สิริกิติ์ มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ กับ AIS ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี สอดรับกับพันธกิจหลักของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการรักษาสิ่งแวดล้อม และพัฒนาชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยผู้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ หรือชุมชนใกล้เคียง สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง แบตเตอรี่มือถือ มาทิ้งได้ที่จุดรับขยะภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์


นอกจากนั้นเรายังได้จัดวางถังแยกขยะประเภทต่างๆ เพื่อให้ผู้มาใช้บริการภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับความสะดวก และง่ายต่อการทิ้งขยะอย่างถูกวิธี ซึ่งขยะที่ผ่านการคัดแยกจะเข้าสู่กระบวนการ Recycle และ Upcycle เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติ ตามระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยจัดสรรให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์มากที่สุด”

นางสาวสายชล ทรัพย์มากอุดม รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์ และธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า เราวางนโยบายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม ที่วันนี้ AIS เดินหน้าสร้าง Ecosystem ในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้โครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ ตั้งแต่การสร้างองค์ความรู้ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหา สร้างกระบวนการจัดเก็บเพื่อให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแบบ Zero Landfill ตามมาตรฐานสากล ผ่านการสร้างการมีส่วนร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย โดยครั้งนี้เราได้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้ามาเป็นหนึ่งในเครือข่ายด้าน Green Partnerships โดยมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน โดยผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ หรือมาเข้าร่วมงานประชุม งานแสดงสินค้า หรืองานแฟร์ต่างๆ สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ มาทิ้งได้ที่จุดรับขยะภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ เพื่อจะได้รวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป”


นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น ดีลิเวอรี่ กล่าวว่า ซีพี ออลล์ มีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล หรือ ESG ซึ่งในมิติของด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบาย 7 Go Green เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายที่จะปลูกไม้ยืนต้นเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้กับพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ผ่านโครงการ"ปลูกป่า ปลูกอนาคต" เป็นไปตามปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน”

สอดรับกับ "วันสิ่งแวดล้อมโลก 2566" ที่กำหนดในธีม “รักษ์โลก ลดพลาสติก” เซเว่น อีเลฟเว่น จึงขอเชิญชวนลูกค้าทั่วประเทศปฎิเสธการรับถุงพลาสติก ช้อน ส้อม และหลอด เปลี่ยนเป็นหยดน้ำเพื่อปลูกต้นไม้ใน 7APP ผ่านชาเลนท์ “แค่ไม่รับ=ปลูกต้นไม้” ตั้งแต่วันนี้ – 23 กรกฎาคม 2566 ปลูกต้นไม้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว
ช่วงวันสิ่งแวดล้อมโลก 5-7 มิถุนานี้ ลูกค้าทั่วไปจะได้รับหยดน้ำ 1 หยด 7-Eleven จะเพิ่มให้เป็น 10 หยดและสำหรับลูกค้า ALL MEMBER จากเดิมรับหยดน้ำ 3 หยด จะเพิ่มให้เป็น 30 หยด










กำลังโหลดความคิดเห็น