BAFS ฟุ้งปีนี้มีปัจจัยบวกเพียบทั้ง CAAT ได้อนุญาตให้สายการบินจากจีนเพิ่มเที่ยวบินเป็นกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินสุวรรณภูมิเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ช่วง ก.ย.นี้ หนุนปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานโตกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 4,200 ล้านลิตร แถมเร่งเจรจาลงทุนธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มอีก
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยแนวโน้มไตรมาส 2/2566 ว่า บริษัทคาดว่าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานในไตรมาส 2 นี้จะต่ำกว่าไตรมาส 1/2566 เนื่องจากไตรมาส 2 เป็นช่วงโลว์ซีซัน หรือมีเที่ยวบินน้อยกว่าทุกไตรมาส แต่ในเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้อนุญาตให้สายการบินจากจีนสามารถเพิ่ม SLOT เป็นกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่มีกว่า 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่งผลให้ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ สนามบินสุวรรณภูมิจะมีการเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 แห่งใหม่ (Satellite1) คาดจะเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.นี้ ส่งผลให้ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย ทำให้บริษัทเตรียมพิจารณาปรับเพิ่มเป้าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานในปี 2566 จากเดิมที่ตั้งไว้ 4,200 ล้านลิตร โดย 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ปีนี้มีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานแล้ว 1,424 ล้านลิตร คิดเป็น 34% ของเป้าหมายปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่ตั้งไว้ในปีนี้
ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ภายใต้บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (BC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาดีลราว 3-4 ดีล คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 เมกะวัตต์ภายในปี 2567
ม.ล.ณัฐสิทธิ์กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนราว 600 ล้านบาท ส่วนอีก 650 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ที่เหลืออีก 250 ล้านบาทจะลงทุนอื่นๆ
ส่งผลให้บริษัทบรรลุเป้าหมายรายได้แตะ 7,500 ล้านบาทในปี 2569 มาจากธุรกิจการบิน 50% และธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities and Power) 40-43% โดยคาดหวังรายได้จากพลังงานหมุนเวียนจะอยู่ที่ 25% หรือคิดเป็นกว่า 1,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) จำนวน 1,200 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจสุดท้าย บริการธุรกิจ (Business Solution and Service) คาดมีสัดส่วนรายได้ 10-11% หรือประมาณ 750 ล้านบาท ของรายได้รวม
ส่วนบริษัทย่อย BX Global Invest Pte Ltd. ที่เพิ่งจดจัดตั้งไปในช่วงต้นปีนี้ เพื่อลงทุนพลังงานหมุนเวียนนอกประเทศ โดยใช้ประเทศสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางในการระดมทุนในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ชำระคืนเงินต้นเพียงครั้งเดียวเมื่อเลิกบริษัท หรือเมื่อผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จำนวนหุ้นกู้ที่เสนอขายไม่เกิน 1,000,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้ในการลงทุน ดังนั้นบริษัทจึงไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนแต่อย่างใด
โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) และ บล.เอเซีย พลัส ระยะเวลาการจองซื้อวันที่ 4-6 ก.ค. 66 ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้”BBB+(tha)” แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ “BBB-” โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด