“คิวทีซี เอนเนอร์ยี่” ลั่นปีนี้รายได้แตะ 1,400 ล้านบาท โตขึ้น 10-20% คาดไตรมาส 2/66 ธุรกิจสดใส ชูดีมานด์การใช้หม้อแปลงไฟฟ้า-โซลาร์เซลล์พุ่ง รับอานิสงส์นโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม ลุ้นคว้างาน กฟภ. ช่วงไตรมาส 2-3 นี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และเตรียมเปิดสถานีชาร์จอีวีใหม่เพิ่มอีก 1 แห่งที่จังหวัดจันทบุรี
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยว่า ภาพธุรกิจในไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น เนื่องจากบริษัทฯ มีการวางแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าเอกชนในประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีการขยายตลาดต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลการยื่นประมูลงานจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะทยอยประกาศในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่ามีโอกาสที่จะคว้างานประมูลดังกล่าวประมาณ 500 ล้านบาท
ในช่วงที่เหลือของปีนี้ QTC จะเห็นการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของหม้อแปลงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพรายแรกของไทย ซึ่งจะเริ่มผลิตและจำหน่ายได้ภายในพฤษภาคมนี้ เพื่อจำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าภาครัฐ เอกชน และต่างประเทศ ซึ่งหากพิจารณาจากกลยุทธ์การขยายธุรกิจแบบเชิงรุกดังกล่าวจะส่งผลให้ในปี 2566 ผลการดำเนินงานของ QTC เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 1,400 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 10-20% เมื่อเทียบจากปีก่อน
นายพูลพิพัฒน์กล่าวว่า เป้าหมายของยอดขายในกลุ่มธุรกิจการจำหน่ายโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 400 ล้านบาท จากการขยายตลาดเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในส่วนของภาคครัวเรือน บ้านพักอาศัย และภาคเอกชนที่สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงานจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้า รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากโซลาร์เซลล์สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ส่วนธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) จะมีการเปิดสถานีให้บริการใหม่เพิ่มอีก 1 แห่งที่จังหวัดจันทบุรีภายในเร็วๆ นี้
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 204.50 ล้านบาท ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผลขาดทุนเพียง 26 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 110 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter และ EV Charger จำนวน 68 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2566 ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยมียอดขายสินค้าและบริการที่ลดลง อีกทั้งมีการชะลอตัวในการลงทุนของภาครัฐ ทำให้ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศลดลงประกอบกับต้นทุนการผลิตสินค้าที่มีการปรับราคาวัตถุดิบสูงขึ้น
