xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการหนุนบริโภคโปรตีนจากเนื้อปลา ย่อยง่าย มีโอเมกา-3 เหมาะทุกเพศทุกวัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิชาการประมงชี้เนื้อปลามีคุณค่าทางโภชนาการสูง ผู้บริโภคควรสังเกตเครื่องหมายรับรองการผลิตที่รับประกันคุณภาพและความปลอดภัย เลือกซื้อจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ ลดเสี่ยงจากการปนเปื้อน เน้นปรุงด้วยวิธีที่คงคุณค่าทางโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดี

ผศ.ดร.จุฑา มุกดาสนิท หัวหน้าภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “เนื้อปลา” เป็นแหล่งของโปรตีนที่ร่างกายต้องการครบถ้วน ย่อยง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะกรดอะมิโนที่จำเป็นที่ร่างกายนำไปใช้ในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มีแร่ธาตุสำคัญ เช่น สังกะสี (Zinc) ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน และธาตุเหล็ก แร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง


นอกจากนี้ เนื้อปลามีกรดโอเมกา-3 โดยมีงานวิจัยยืนยันว่าการรับประทานกรดโอเมกา- 3 อย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงหรือป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้ ทั้งโรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด ซึ่งปลาแต่ละชนิดมีโอเมกา-3 แตกต่างกัน ปลาทะเลที่มีโอเมกา-3 มาก เช่น ปลาทู ปลาอินทรี ปลากะพงแดง ปลากะพงขาว ส่วนปลาน้ำจืด เช่น ปลาดุก ปลาสวาย เป็นต้น และในประเทศไทยมีปลาหลายชนิดที่หารับประทานได้ง่าย เช่น ปลาทู ปลาดุก ปลาช่อน ปลากะพง

อย่างไรก็ตาม การบริโภคโอเมกา-3 ในปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเพศ ช่วงวัย และภาวะสุขภาพของแต่ละคน สำหรับคนที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว ให้รับประทานเฉลี่ย 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือรับประทานเนื้อปลาให้ได้อย่างน้อย 3 มื้อต่อสัปดาห์ หรือมื้อละ 100 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่แนะนำ


สำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อปลาที่ผ่านการแปรรูปแล้ว เช่น ปลาแช่เยือกแข็ง ปลาแล่เป็นชิ้น หรือลูกชิ้นปลา ให้สังเกตตราสัญลักษณ์ GMP (Good Manufacturing Practice) แสดงถึงมาตรฐานควบคุมการผลิตอาหารอย่างปลอดภัย อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข สามารถทวนสอบย้อนกลับได้ทั้งกระบวนการผลิต และให้สังเกตเครื่องหมาย HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) เป็นมาตรฐานการผลิตที่มีมาตรการป้องกันและลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดจำหน่ายและการเก็บรักษา รับรองได้ว่าผู้บริโภคจะได้ปลาที่ สด สะอาด ปลอดภัย


"กรณีผู้บริโภคที่มีความกังวลว่าปลาจะมีการปนเปื้อนของสารปรอท ขอให้ผู้บริโภคอย่าได้ตระหนก ให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปลาที่ผ่านการรับรองด้วยระบบ HACCP เพื่อลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนสารปรอท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปลาสดนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น อย. และกรมประมง ควรมีการตรวจเฝ้าระวังการปนเปื้อนของสิ่งที่กำลังเป็นข้อกังวลของผู้บริโภคเป็นระยะๆ และสื่อสารข้อมูลที่เป็นจริงและเพียงพอ ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น" ผศ.ดร.จุฑากล่าว


ส่วนวิธีการบริโภค ควรปรุงให้สุก เพื่อทำลายพยาธิและจุลินทรีย์ก่อโรค ที่สำคัญ การรับประทานเนื้อปลาสุกร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีกว่าการรับประทานแบบดิบ วิธีการปรุง เน้นเป็นการต้ม หรือนึ่ง หลีกเลี่ยงการปิ้งย่างหรือทอด เนื่องจากการใช้อุณหภูมิที่สูงเกินกว่า 100 องศาเซลเซียส จะทำให้โอเมกา-3 สลายตัวส่งผลให้ปริมาณโอเมกา-3 ลดลง อีกทั้งการทอดในน้ำมันบางชนิดจะทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัว ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น