ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานตามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 4 วันที่ 10-12 เม.ย.นี้ ที่กรุงเทพฯ แบบพบปะเห็นหน้ากันเป็นครั้งแรก หลังเจอผ่านออนไลน์มา 3 ปี เดินหน้าอัปเกรดความตกลงให้ทันสมัย เพื่อช่วยเพิ่มการค้า การลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ตั้งเป้าสรุปผลเจรจาภายในปี 67
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานตามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย. 2566 ณ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงเทพฯ โดยจะเป็นการประชุมแบบพบกันครั้งแรก หลังจากประชุมผ่านระบบออนไลน์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีเป้าหมายเพื่อเร่งปรับปรุงความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2548 ให้ทันสถานการณ์และรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยตั้งเป้าหาข้อสรุปและเจรจาให้เสร็จภายในปี 2567
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าเพื่อกำกับดูแลภาพรวมการเจรจา และการประชุมคณะทำงาน 5 คณะ ได้แก่ การค้าสินค้า การลงทุน เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล และการแข่งขันและการคุ้มครองผู้บริโภค
“ไทยในฐานะผู้ประสานงานฝ่ายอาเซียนและเป็นตัวแทนของอาเซียนทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมร่วมกับฝ่ายจีน จะผลักดันให้การเจรจาคืบหน้ามากที่สุด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการหาข้อสรุปให้ได้ภายในปี 2567 ตามที่ตั้งเป้าไว้ เพราะการปรับปรุง FTA อาเซียน-จีน จะช่วยขยายการค้าระหว่างสมาชิก และเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นางอรมนกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน โดยในปี 2565 การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนมีมูลค่า 715,156.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 6.70% โดยอาเซียนส่งออกไปจีนมูลค่า 288,920.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจีนส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 426,235.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 105,404.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 1.53% โดยไทยส่งออกไปจีน มูลค่า 34,389.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากจีน มูลค่า 71,014.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ และสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
