“สนั่น” เสียงสนับสนุนท่วมท้น นั่งประธานหอการค้าไทยต่อสมัยที่ 2 ประกาศเดินหน้านโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่ความยั่งยืนด้วย BCG โมเดล ให้ความสำคัญต่อการช่วยเหลือ SMEs เตรียมลุยโรดโชว์จีนดึงลงทุน EEC จัดงานแฟร์ที่ซาอุดีอาระเบีย พร้อมย้ำเปิดเวทีเสวนาการเมือง “มุมมองของภาคธุรกิจต่อนโยบายขับเคลื่อนประเทศ” ทำเป็นสมุดปกขาวให้กับพรรคการเมืองกำหนดนโยบาย
วันที่ 22 มี.ค. 2566 หอการค้าไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ประจำปี 2565 โดยไฮไลต์ของการจัดประชุมคือการเลือกตั้งคณะกรรมการหอการค้าไทย วาระปี 2566-2567 แทนคณะกรรมการชุดเดิมจำนวน 76 คน ที่หมดวาระลง ซึ่งภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการฯ ชุดใหม่มีมติเห็นชอบให้นายสนั่น อังอุบลกุล ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยต่ออีก 1 สมัย และจะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยโดยตำแหน่ง
นายสนั่นกล่าวว่า ปีนี้หอการค้าไทยจะครบรอบ 90 ปีของการก่อตั้ง คณะกรรมการชุดใหม่จะต่อยอดความสำเร็จเดิมด้วยแนวคิด Connect-Competitive-Sustainable ซึ่งเป็นธีมหลักของหอการค้าทั่วประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่ความยั่งยืน ภายใต้ความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะประเด็นด้านเศรษฐกิจที่มีความเกี่ยวพันกับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงมาตรการการค้าระหว่างประเทศรูปแบบต่างๆ ที่เน้นและให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่หอการค้าไทยจะเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
“ที่ผ่านมาหอการค้าไทยได้เริ่มจัดทำ Pilot Project ยกระดับความสามารถของ SMEs การสร้างการรับรู้และต้นแบบการทำธุรกิจด้วยแนวทาง BCG โมเดล รวมถึงได้ตั้งเป้าหมายระดมสมาชิกทั่วประเทศ เพิ่มจาก 1 แสนราย เป็น 2 แสนราย โดยเชื่อมั่นว่าหอการค้าไทยจะมีส่วนเติมเต็มศักยภาพผู้ประกอบการให้แข่งขันในตลาดได้มากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดการค้าใหม่ๆ อย่างประเทศจีน ด้วยแผนจัดโรดโชว์ดึงการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่ EEC โดยจะร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และบีโอไอ เจาะกลุ่มนักลงทุนรายมณฑลในช่วงไตรมาส 2 พร้อมกับแผนการจัดงานแสดงสินค้าไทยที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในปลายปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าไทยที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง
“ตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา หอการค้าไทยได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทขององค์กรภาคเอกชนที่ยืนหยัดคู่กับเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน ผ่านยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ และนับจากนี้ไป หอการค้าไทยจะยังคงเดินหน้าทำหน้าที่เป็นเสาหลักด้านเศรษฐกิจ สร้างอนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาส เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้ขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า สำหรับผลการทำงานในสมัยแรก ได้ชูแนวทาง Connect the Dots โดยดึงการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตนและคณะกรรมการฯ บริหารงานหอการค้าไทย ภายใต้ความท้าทายโดยเฉพาะประเด็นด้านเศรษฐกิจที่มีผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และตามมาด้วยวิกฤตต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งแนวความคิดที่จะดึงทุกภาคส่วนของสังคมมาช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ด้วยการประกาศแนวทาง 99 วันแรกของการทำงานในสมัยที่ผ่านมา ทำให้หอการค้าไทยได้เข้าไปมีบทบาทกับสังคมมากขึ้น เริ่มจากการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนต้นแบบ 25 ศูนย์ในกรุงเทพมหานคร จนสามารถขยายผลไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนรัฐบาลกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง จนทำให้ไทยสามารถเปิดประเทศได้อย่างรวดเร็วจนถึงวันนี้ ขณะเดียวกันยังเดินหน้าช่วยเหลือ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมาตรการต่างๆ เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า กิจกรรมแรกในโอกาสครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย จะจัดเวทีเสวนา “มุมมองของภาคธุรกิจต่อนโยบายขับเคลื่อนประเทศ” โดยมี รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจะเป็นเวทีที่เหล่าผู้นำภาคธุรกิจเอกชนจะได้มาสะท้อนความต้องการและสิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นใน 10 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การส่งเสริมภาคธุรกิจเกษตร อาหาร และ BCG & ESG, Digital Transformation และการศึกษาไทย, การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ, การค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาแรงงานไทย, การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ, การส่งเสริมภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค, โอกาสของไทยด้านการค้าข้ามแดนและชายแดน, การสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และข้อเสนอจากตัวแทนนักศึกษา
โดยประเด็นทั้งหมดนี้ ผู้นำพรรคการเมืองจะได้รับฟังจากตัวแทนหอการค้าไทยในกลุ่มต่างๆ ก่อนที่จะต้องขึ้นกล่าวแสดงมุมมองความเห็นว่าพรรคการเมืองเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนอย่างไร (How) หรือมีอะไรที่ไม่เห็นด้วยเพราะเหตุใด (What-Why) และภายหลังจากการจบเวทีเสวนา จะมีการสรุปมาตรการและนโยบายสำคัญๆ เป็นสมุดปกขาวมอบแก่ทุกพรรคการเมืองที่เข้าร่วมงาน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำมาตรการและนโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน
ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นปีที่ครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทยแล้ว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็ครบรอบ 60 ปี รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าไทย (YEC) ก็ครบรอบ 10 ปีด้วยเช่นกัน ดังนั้น เครือข่ายทั้งหมดของหอการค้าไทยจะได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองตลอดทั้งปีในหลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดทำหนังสือเนื่องในวาระครบรอบ 90 ปี ร่วมกับ The Standard เป็นหนังสือที่จะถอดบทเรียนและแนวทางก้าวไปสู่ความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย, การจัดโครงการบริจาคโลหิตร่วมกับสภากาชาดไทย ภายใต้ชื่อ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย, การจัดเวทีประชุมคณะกรรมการบริหารสัญจร 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ รวมถึงช่วงปลายปีจะมีการจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ