xs
xsm
sm
md
lg

CPF ถ่ายทอดเทคโนโลยี IoT จุดประกายคนรุ่นใหม่ พลิกแปลงเกษตรใน ร.ร.สู่ Smart Farming

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พื้นที่แปลงเกษตร แปลงปลูกผักสวนครัว และโรงเพาะเห็ดในโรงเรียน ถูกยกระดับด้วยการนำเทคโนโลยีและ IoT มาใช้ สู่ Smart Farming สร้าง "อัจฉริยะยุวเกษตร" บนเส้นทางการทำเกษตรยุค 4.0

เมื่อเร็วๆ นี้ น้องๆ ของโรงเรียนในโครงการมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีโอกาสได้เรียนรู้ การนำ IoT (Internet of Things) มาประยุกต์ใช้กับโครงการด้านการเกษตรของโรงเรียน ผ่านการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ "โครงการอัจฉริยะยุวเกษตร" ซึ่งบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เชิญวิทยากรจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน IoTมาให้ความรู้แก่นักเรียน คุณครู และผู้อำนวยการโรงเรียนของโรงเรียนบ้านชีลองเหนือ โรงเรียนบ้านโนนสำราญวิทยา และโรงเรียนบ้านซำมูลนาก ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED รวมทั้งโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ (สพป.ชัยภูมิ) รวมทั้งหมด 24 โรงเรียน ที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้


ร.ร.บ้านชีลองเหนือ ร.ร.บ้านโนนสำราญวิทยา และร.ร.บ้านซำมูลนาก เป็นโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED ที่ซีพีเอฟดูแลและได้รับงบประมาณสนับสนุนทำโครงการด้านการเกษตร เช่น ร.ร.บ้านชีลองเหนือทำโครงการ "ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (CLN Smart Hydroponics)" ร.ร.บ้านโนนสำราญวิทยาทำโครงการ "MushRoom House By N.W.School" และโรงเรียนบ้านซำมูลนาก ทำโครงการ "ยุวเกษตรเห็ดอินทรีย์วิถีชีวิตใหม่" โดยทั้ง 3 โรงเรียนดำเนินโครงการด้านการเกษตร และมองเห็นโอกาสของการขยายโครงการให้มีความยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยี IoT ต่อยอดสู่การเป็น "อัจฉริยะยุวเกษตร"


นางสาวมาริสา มอไธสง ผู้อำนวยการ ร.ร.บ้านชีลองเหนือ กล่าวว่า โรงเรียนฯ ได้รับงบประมาณจากซีพีเอฟทำโครงการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และได้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ "โครงการอัจฉริยะยุวเกษตร" ให้แก่คุณครู นักเรียน และผู้บริหารของโรงเรียน ทำให้เห็นความสำคัญของการทำการเกษตรในปัจจุบันที่ต้องพึ่งพา IoT ที่ช่วยให้การทำเกษตรเป็นเรื่องง่ายและสะดวก ขอขอบคุณมูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี และซีพีเอฟ ที่ให้โอกาสโรงเรียนในชนบทได้เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ต่อ

นอกจากโรงเรียนฯ มีแผนนำระบบ Smart IoT มาช่วยพัฒนาผู้เรียน และทำระบบ IoT ไปใช้ในครัวเรือนของชุมชนแล้ว ยังได้ถ่ายทอดความรู้ให้เด็กๆ เรียนรู้การทำแผนการตลาดเพื่อวางแผนการจำหน่ายผลผลิต สำรวจตลาดบริเวณใกล้เคียงโรงเรียน เช่น ตลาดนัดบ้านห้วยต้อน ตลาดนัดช่อระกา สถานีอนามัย ต.ห้วยต้อน เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกประเภทของผักที่จะปลูก เช่น กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก ผักกาดหอม ผักคะน้า ผักบุ้ง ตามความต้องการของตลาด พร้อมทั้งทำเพจประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารไปยังคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน


นายสุพล พรมมานอก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านซำมูลนาก กล่าวว่า การที่เด็กๆ มีโอกาสได้เรียนรู้ในการนำ IoT มาใช้ ช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดมุมมองใหม่ๆในการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันเด็กฯ หันหลังให้กับอาชีพการเกษตร แต่เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้มีความสะดวกมากขึ้น เป็นการจุดประกายให้เด็กๆ กลับมาให้ความสนใจการทำเกษตร ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนบ้านซำมูลนากได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากซีพีเอฟดำเนินโครงการโรงเพาะเห็ด พร้อมทั้งเข้ามาวางระบบควบคุมการเปิดและปิดน้ำภายในโรงเพาะ โดยใช้เซ็นเซอร์กำหนดเวลา อาทิ ทุกๆ 1 ชั่วโมงระบบจะเปิดฉีดน้ำ 5 นาที แต่ระบบในขณะนี้ยังไม่สัมพันธ์กับปัจจัยความชื้นและอุณหภูมิ ซึ่งหากมีการประยุกต์ IoT เข้ามาควบคุมด้วย เป็นการสร้างตัวควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนได้โดยอัตโนมัติ เช่น การสั่งการความถี่ของการพ่นน้ำในโรงเรือนเพาะเห็ดได้ดีขึ้น

นายไชโย กล้ารมราน ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนสำราญวิทยา รับผิดชอบโครงการ MushRoom House BY N.W. School กล่าวว่า การอบรม "โครงการอัจฉริยะยุวเกษตร" ทำให้นักเรียนมีโอกาสได้รู้จักกับ IoT ส่งเสริมให้เกิดมุมมองใหม่ๆ ในการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเกษตร ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพเกษตรกรรม สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้มีความสะดวกมากขึ้นในการดูแลโรงเห็ด มีการควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนได้โดยอัตโนมัติ ผู้เรียนได้เรียนรู้ เกิดความสนุกสนาน และนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์


ด้านนายศานิตย์ สุวรรณวงศ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การประยุกต์ใช้ IoT ผ่านการเขียนโปรแกรมบนแพลตฟอร์มอาร์ดุยโน่ (Arduino) ใน "โครงการอัจฉริยะยุวเกษตร" กล่าวว่า เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เพื่อสั่งการระบบอัตโนมัติในโครงการด้านการเกษตรของโรงเรียน กระตุ้นให้เด็กนักเรียนเกิดความกระตือรือร้น อย่างไรก็ตาม การไปสู่ผลสัมฤทธิ์ต้องได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือมีผู้ที่เข้ามาสนับสนุนให้สามารถทำโครงการได้อย่างต่อเนื่อง


"โครงการอัจฉริยะยุวเกษตร" เป็นหนึ่งในโครงการที่ซีพีเอฟส่งเสริมด้านวิชาการและอาชีพให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อขับเคลื่อนแผนยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทย ตามเป้าหมายของโครงการ CONNEXT ED ในการสร้างเด็กดีและเด็กเก่ง โดยมีโรงเรียนเป็นแหล่งที่ให้ความรู้ทั้งด้านวิชาการและการฝึกลงมือปฏิบัติจริง สามารถขยายผลสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบของชุมชนในการพัฒนาอาชีพ และสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่โรงเรียนข้างเคียงต่อไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น