กรมการค้าต่างประเทศนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) เพื่อลดความผิดพลาด เพิ่มความน่าเชื่อถือของใบ C/O และช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเร็วให้แก่ผู้ประกอบการ เผยแต่ละปีมีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 ล้านฉบับ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้านำนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ โดยเฉพาะการให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin: C/O) ที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปขอลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีนำเข้าได้ที่ประเทศปลายทางตามพันธกรณีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยเข้าร่วมเป็นภาคี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการออก C/O โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควบคู่กับเทคโนโลยีแปลงภาพให้เป็นข้อมูล (Optical Character Recognition : OCR) มาใช้ในการบริหารความเสี่ยงรายบุคคล (Risk-based Management on Profile) เพื่อช่วยลดความผิดพลาด และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ C/O ที่ออกโดยกรมฯ และช่วยลดระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้ในการตรวจสอบเอกสาร
“กรมฯ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการออก C/O ส่งผลให้แต่ละปีมีผู้มาขอรับ C/O ผ่านระบบการให้บริการของกรมฯ มากกว่า 1 ล้านฉบับ โดยในปี 2565 มีมูลค่าการส่งออกกว่า 3.7 ล้านล้านบาท จึงต้องให้ความสำคัญในการยกระดับการให้บริการให้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ” นายรณรงค์กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากระบบ C/O กรมฯ ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการด้านการค้าต่างประเทศด้วยนวัตกรรมดิจิทัล เช่น การยกระดับการให้บริการส่งออกสินค้ามาตรฐาน การพัฒนาการบูรณาการระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อบริหารจัดการข้อมูลการไต่สวนตามมาตรการ AD/CVD/SG การพัฒนาระบบประมวลการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้ FTAs ของไทย การปรับปรุงระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศเพื่อรองรับการขยายขอบเขตในการขอรับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001 และการพัฒนาระบบคลังข้อมูลกลางของกรมฯ ซึ่งจะช่วยให้กรมฯ สามารถบริหารจัดการและช่วยสนับสนุนการให้บริการของกรมฯ ได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายต่อไป กรมฯ จะเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างครบวงจร โดยจะให้ความสำคัญต่อการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงลดภาระงานและการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในอนาคตกรมฯ จะหันมาให้บริการระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ