“สร.กฟผ.” ยื่นหนังสือถึง "กุลิศ สมบัติศิริ" ปลัดกระทรวงพลังงานในฐานะประธานบอร์ด กฟผ. หวังการประชุมบอร์ดวันนี้จะสรรหาผู้ว่าฯ กฟผ.แบบเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (8 มี.ค. 66) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) นำโดยนางณิชารีย์ กิตตะคุปต์ ประธาน สร.กฟผ. ได้ยื่นหนังสือต่อ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานในฐานะประธานกรรมการบริหาร กฟผ. (บอร์ด กฟผ.) ซึ่งบอร์ด กฟผ.จะประชุมวาระพิเศษในวันเดียวกันนี้เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่แทนนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าฯ กฟผ.ปัจจุบันที่จะครบวาระในวันที่ 21 สิงหาคม 2566
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวเป็นแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาระบุว่า สร.กฟผ.ได้เฝ้าติดตามการคัดเลือกผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ และครั้งนี้ สร.กฟผ.ไม่ได้รับการประสานงานจากฝ่ายบริหารให้มีส่วนร่วมจัดทำเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเป็นผู้ว่าการฯ ซึ่งผิดปกติจากการปฏิบัติเช่นที่เคยเป็นมาทุกครั้ง ความผิดปกติอีกประการหนึ่ง คือ การนำเสนอชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาถึงคณะกรรมการ กฟผ.ควรเสนอเพียงชื่อเดียวเช่นเคยปฏิบัติกันมา แต่ครั้งนี้มีการเสนอสองชื่อ พร้อมกับมีข่าวจากสื่อมวลชน ได้กล่าวว่า “กรรมการสรรหา เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2566 ได้หารือและเสียงข้างมากได้เลือกนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์”
ตามความเห็นของ สร.กฟผ. เห็นด้วยกับคณะกรรมการสรรหา เพราะ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ความเข้าใจในด้านพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างดี และมีความอาวุโสเหมาะกับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. แต่ถ้ามีผู้มีอิทธิพลในวงการพลังงานต้องการ นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯ เพียง 4 เดือน ในขณะที่อีกสองท่านคือ นายทิเดช เอี่ยมสาย และ น.ส.จิราพร ศิริคำ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าตามข่าวที่นำเสนอทางสื่อมวลชนจริง ย่อมนำมาสู่ความหายนะของ กฟผ.ในที่สุด
สร.กฟผ.มีความมั่นใจในคณะกรรมการ กฟผ.มาโดยตลอด ว่ามีคุณสมบัติที่ดีงาม จนได้รับความไว้วางใจมาดูแล กฟผ. ซึ่งเป็นสมบัติของท่านและประชาชน อย่างไรก็ตาม สร.กฟผ.จะเฝ้าดูผลการพิจารณาของคณะกรรมการ กฟผ. ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางองค์กรและพนักงาน พร้อมทั้งประชาชนผู้เป็นเจ้าของ กฟผ.ในการกำหนดทิศทางการต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ขององค์กร ประเทศชาติ และประชาชนสืบต่อไป