“ชูวิทย์” หอบดอกไม้มอบ "อธิรัฐ" ก่อนยื่นให้ตรวจสอบไม่โปร่งใส "บิ๊กคมนาคม" 4 ประเด็น “อธิรัฐ” รับเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกประเด็นเพื่อความโปร่งใส
วันที่ 7 มี.ค. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ได้เดินทางไปยังกระทรวงคมนาคม โดยได้มอบดอกไม้ให้นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้อง 4 ประเด็น ได้แก่ 1. กรณีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรณีฝ่าฝืนวินัย และประพฤติผิดคุณธรรม 2. หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ประมูลงานกระทรวงคมนาคม ช่วงปี 2563-2566 อย่างไม่โปร่งใส ส่อฮั้วประมูล 3. ขอให้ดำเนินคดีต่อนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ กรณีที่ดินเขากระโดง ของการรถไฟฯ 4. ขอให้ตรวจสอบ นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต คุมงบประมาณและสั่งการแทนรัฐมนตรี โดยแสดงเอกสารที่ นางสุขสมรวย ลงนามในหนังสือถึงอธิบดีกรมทางหลวงชนบท สั่งการให้เร่งรัดสัญญาให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการและให้รายงานอย่างใกล้ชิด
นายชูวิทย์กล่าวว่า รมต.อธิรัฐเป็นคนหนุ่มที่จะอยู่ในวงการการเมืองต่อไปอีกนาน นี่เป็นโอกาสที่จะทำงานเพื่อบ้านเมือง กระทรวงคมนาคมมีการฮั้วประมูล มีการสั่งการโยกย้ายข้าราชการโดยมิชอบ อาจไม่ 100% แต่ทำเกิน 50% ก็พอใจแล้ว ตนเชื่อมั่นว่านายอธิรัฐตั้งใจทำงาน เพราะเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ คนเดียวที่เหลืออยู่ในระหว่างที่ รมว.คมนาคมถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนี้อีกเมื่อใด โดยขอให้ตรวจสอบใน 15 วัน
การฮั้วราคาประมูลงานของกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในจังหวัดบุรีรัมย์ มีบริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ เป็นคู่เทียบ มีหจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น รับงาน โดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% แทบทุกงาน ส่วนที่ดินเขากระโดง ขอให้ตรวจสอบผู้ว่าฯ การรถไฟฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งวันนี้กระทรวงมหาดไทยกำลังประชุมเพื่อขอเพิกถอนโฉนดเขากระโดง ส่วนกรณีผู้ว่าฯ รฟม.ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมส่วนตัว
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายชูวิทย์ได้ยื่นให้ตรวจสอบ 4 เรื่อง คือ 1. รถไฟฟ้าสายสีส้ม 2. เลขาฯรมว.คมนาคม 3. ผู้ว่าฯ รฟท. 4. ผู้ว่าฯ รฟม. นั้น ตนจะเร่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งต้องยอมรับว่ากรณีสายสีส้มอาจจะพอทราบเรื่องมาบ้าง แต่อีก 3 เรื่องที่ยื่นมานั้น เพิ่งทราบ เช่นเรื่องเขากระโดง และเรื่องเลขาฯ รมว.คมนาคม ซึ่งกรณีนี้ ขอตรวจสอบก่อนว่า รมว.คมนาคม ได้มีคำสั่งมอบหมายงานให้เลขาฯ รมว.คมนาคม อะไรบ้าง เรื่องที่ให้ตรวจสอบได้รับมอบหมายหรือไม่ เป็นต้น
นายอธิรัฐกล่าวต่อว่า การตรวจสอบจะเสร็จใน 15 วัน ตามที่นายชูวิทย์ต้องการหรือไม่ ตนยังตอบไม่ได้ เพราะต้องตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงก่อน แต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุดเพื่อให้ทุกเรื่องมีคำตอบกับสังคมและเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย โดยเบื้องต้นคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นนั้น คงต้องแยกเป็นเรื่อง เช่น กรณีสีส้ม เป็นเรื่องกฎหมาย จะไม่เกี่ยวกับจริยธรรมตัวบุคคล ซึ่งเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2566 ตนได้เรียกผู้เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมาชี้แจงข้อมูลแล้ว ซึ่งรับทราบเรื่องที่มีการฟ้องร้อง 4 คดี ขณะนี้ยกฟ้องแล้ว 1 คดี เหลืออีก 3 ซึ่งตรงนี้ต้องดูรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร หากจะดำเนินการต่อไป กรณีการฟ้องร้องยังมีอยู่ไม่สิ้นสุด จะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างไร หรือจะต้องรอคำสั่งศาลให้จบก่อน
“กรณีสีส้ม ต้องบอกว่าอยู่ที่การตรวจสอบ ไม่ได้มีการสั่งชะลอ เพราะต้องขึ้นกับระเบียบ กฎหมาย ที่ต้องปฏิบัติตามให้ถูกต้องครบถ้วน หากถูกระเบียบชี้แจงได้ มีคำตอบกับสังคมได้ ก็เดินต่อได้ แต่หากไม่เคลียร์ไม่ถูกระเบียบ หรือกรณีมีการฟ้องร้องอาจต้องรอคำสั่งศาลก่อน ก็ต้องรอ จะไปต่อได้อย่างไร
รวมถึงการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เมื่อใดตนยังตอบไม่ได้ ยอมรับว่าหนักใจ ที่มีกรณีเหล่านี้ในช่วงท้ายรัฐบาลและกำลังจะเลือกตั้ง แต่หากสามารถทำให้สังคมสบายใจขึ้น ทำให้ประชาชนที่สงสัยเกิดความกระจ่างตนยินดีที่จะทำดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง ต้องเคลียร์และมีคำตอบทุกเรื่องให้มากที่สุด” นายอธิรัฐกล่าว
นายอธิรัฐกล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ได้มีการแจ้งเรื่องให้ตนปฏิบัติหน้าที่แทนรมว.คมนาคม ซึ่งในห้วงเวลาที่เป็น ครม.รักษาการนั้น การนำเสนอโครงการต่างๆ จะต้องเป็นไปตามระเบียบ หากไม่ขัดกฎหมายก็นำเสนอไปตาม ซึ่งตนจะหารือกับปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงานเพื่อเร่งรัดการดำเนินงานในห้วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้เร่งรัดงาน ที่ค้างอยู่ให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด