ราช กรุ๊ป เผยกำไรสุทธิงวดปี 2565 ลดลง 26% อยู่ที่ 5,782 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 81,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.4% บอร์ดฯ ไฟเขียวจ่ายปันผลครึ่งหลังปี 65 ที่อัตราหุ้นละ 80 สต.
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 81,788.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.4 เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวนเงิน 12,811.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 และมีกำไรสุทธิ 5,782.07 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 26
ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก มาจากการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเรียว ในอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช ระยอง รวมทั้งการลงทุนเพิ่มในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน-1 อินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) ด้วย
ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัทฯ โดยส่วนใหญ่ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการบริหารทางการเงินให้ต้นทุนอยู่ในระดับเหมาะสมและการจัดหาเงินทุนให้เพียงพอและทันการณ์กับการขยายการลงทุนของบริษัทฯ ปัจจุบันสถานะทางการเงินของบริษัทฯ จัดอยู่ในระดับที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ในปี 2565 สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 229,578.28 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ระดับ 1.90 เท่า และหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 1.14 เท่า
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จัดสรรเงินปันผลประจำปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่อัตราหุ้นละ 1.60 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 3,480 ล้านบาท คิดเป็น 1.60 บาทต่อหุ้น โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 (งวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565) แล้วจำนวนหุ้นละ 0.80 บาท จึงคงเหลือเงินปันผลจ่ายอีกจำนวน 0.80 บาทต่อหุ้น ซึ่งบริษัทฯ จะได้นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 24 เมษายนนี้