ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดแฮร์แคร์ 4,000 ล้านบาทปีนี้คาดโต 14.5% รับเทรนด์คนไทยกลับมาคึกคักหลังโควิด “โลแลน” เดินเกมรุก หวนทำตลาดเต็มกำลังในรอบ 10 ปี ส่งสินค้าใหม่ 44 รายการสู่ตลาด ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ รุกคนเมืองที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมเจาะตลาดดิจิทัลมัดใจคนรุ่นใหม่ มุ่งขยายตลาดในไทย รุกอาเซียนและจีน ปักธงยอดขายโตอีก 13%
นายเอกศาสตร์ สรรพช่าง รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.ซี. เสรีชัยบิวตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมแบรนด์ โลแลน (Lolane) เปิดเผยว่า โลแลนอยู่ในตลาดมากว่า 36 ปี ที่ผ่านมายอดขายเติบโตทุกปี โดยช่วงโควิดยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ปี 2565 มีรายได้เติบโต 2 หลัก และปีนี้ตั้งเป้าโตมากกว่าปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในปีก่อนถือเป็นปีที่บริษัทนำเสนอสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดกว่า 150 รายการ สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ เนื่องจากเดิมเป็นสินค้าที่ถูกพัฒนาและวางแผนทำตลาดไว้ก่อนหน้า แต่ต้องชะลอไปจากสถานการณ์โควิด แต่จากการคาดการณ์ไว้ว่าปีนี้ตลาดแฮร์แคร์จะกลับมา 100% การเปิดตัวสินค้าใหม่ตั้งแต่ปีก่อนถือเป็นการรุกตลาดก่อน สร้างความได้เปรียบ และสร้างการจดจำก่อน ส่วนในปีนี้ยังคงนำเสนอสินค้าใหม่อีกกว่า 55 รายการ แบ่งเป็นกลุ่มทรีตเมนต์ และคัลเลอร์ อย่างละ 50% เท่าๆ กัน
“การทำตลาดในปีนี้ถือเป็นการกลับมารุกตลาดครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ด้วยงบการตลาด 10% ของรายได้รวม ซึ่งตลอด 3 ปีจากนี้จะเป็นช่วงของการทยอยปรับเปลี่ยนแพกเกจจิ้ง ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในการก้าวสู่ปีที่ 40 ที่ใกล้จะถึงนี้”
ด้านนายปริญญา ทัศคร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท เอส.ซี. เสรีชัยบิวตี้ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 ตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผมในไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง จากผลสำรวจตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 พบว่ามี 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คือกลุ่มทรีตเมนต์ มีมูลค่า 3,180 ล้านบาท โตขึ้น 4% ส่วนกลุ่มทำสีผมมีมูลค่า 1,483 ล้านบาท โตขึ้น 14% สะท้อนศักยภาพในการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผมในไทยว่ามีทิศทางที่ดีในปี 2566
ปีนี้พบว่าเทรนด์ทำสีผมจะเป็นกระแสฮอตฮิต เนื่องจากคนไทยอยากกลับมาสร้างความสนุก ความมีชีวิตชีวาให้กับตัวเองหลังผ่านพ้นช่วงโควิด-19 ประกอบกับการเปิดกว้างด้านนโยบายของสถานศึกษาและที่ทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมออร์แกนิกจะมีการเติบโตสูง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัว หากมองในภาพรวมกลุ่มตลาดแฮร์ทรีตเมนต์ปี 2565 มีมูลค่าราว 4,000 ล้านบาท โต 4.31% ส่วนปีนี้มองว่ามีโอกาสโตถึง 15%
สำหรับโลแลน รักษาอันดับ 1 ด้วยกลุ่มสินค้า Lolane Intense Care เติบโตในช่องทางไฮเปอร์มาร์เกตและคอนวีเนียนสโตร์ ส่วนตลาดแฮร์คัลเลอร์นั้น 6 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่า 1,482.67 ล้านบาท โต 14.48% ซึ่งพบว่ากลุ่ม Hair Color Shampoo หรือแชมพูปิดผมขาวแบบซองยังแข่งขันกันดุเดือด มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางคงตัว ส่วนกลุ่ม Hair Color Cream ภาพรวมตลาดเติบโตขึ้นทั้งไฮเปอร์มาร์เกต, คอนวีเนียนสโตร์ และ OT และเติบโตมากกว่าแชมพู และตลาดสีผมเติบโตในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสีแฟชั่นโทนหม่น
แผนโลแลน ปีนี้จะเน้น 5 เรื่อง คือ 1. สร้างยอดขายให้เติบโต 13%, 2. ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์โลแลนให้ทันสมัยขึ้น เข้าถึงกลุ่มคนเมืองที่มีรายได้สูงมากขึ้น, 3. ครองอันดับ 1 ในซูเปอร์ทรีตเมนต์ ต่อเนื่องปีที่ 7 สร้าง Brand Love กลุ่มบำรุงผม, 4. เจาะตลาดครีมเปลี่ยนสีผมระดับแมส และ 5. เพิ่มศักยภาพในการเจาะตลาด Professional ทั้ง Salon & Barber โดยการเพิ่ม visibility ทั้งในเมืองและหัวเมืองใหญ่
“ในฐานะที่โลแลนเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม และเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลเส้นผมยอดขายอันดับ 1 ในไทย เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลให้ผู้บริโภคมั่นใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง ด้วยแนวความคิด "ผมสวย ชีวิตดี" ด้วยผลิตภัณฑ์จากโลแลน ซึ่งมีส่วนผสมจากธรรมชาติมาผสานกับนวัตกรรม”
ปัจจุบันโลแลนมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 500 รายการ ซึ่งมีความหลากหลายครอบคลุมการจำหน่ายทั้งในประเทศและกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยในปีนี้พร้อมวางผลิตภัณฑ์เส้นผมครอบคลุม 3 หมวดหมู่หลัก คือ 1. ผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงและดูแลสุขภาพผม, 2. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนโครงสร้างผม และ 3. ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม พร้อมเจาะตลาดครีมเปลี่ยนสีผมระดับแมสเพื่อเติมเต็มความต้องการด้านความงามของผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมกิจกรรมการตลาด โปรโมชันตลอดทั้งปี และจะเน้นให้ความรู้และทำงานควบคู่กับร้านค้าท้องถิ่น ในการเข้าสู่ตลาดการขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น โดยมุ่งขยายตลาดในไทย โลแลนยังคงเดินหน้ารุกตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผมระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเชียนและจีน ที่มีการยอดขายและเติบโตด้านความงามสูง