เจ้าท่าฯ ตั้งสอบเหตุเรือไฟฟ้า EA ไฟไหม้ ที่พระประแดง จ.สมุทรปราการ ใน 7 วัน เผยจุดไหม้อยู่บริเวณชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมยืนยันไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ
จากกรณีเกิดเหตุเรือไฟฟ้าไฟไหม้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่พระประแดง นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) มอบหมายให้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านปลอดภัย และนายวิเชียร เปมานุกรรักษ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เข้าพื้นที่ตรวจสอบเรือไฟไหม้ พระประแดง และเร่งรัดดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน และหาสาเหตุที่เกิดขึ้นภายใน 7 วัน
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการได้รับแจ้งเหตุเรือระเบิดและไฟไหม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าบริษัท ปิยะศิริวานิช จำกัด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในบริเวณดังกล่าวมีเรือไฟฟ้านำเที่ยวจอดเทียบท่าอยู่ จำนวน 11 ลำ เกิดเพลิงไหม้เสียหาย 3 ลำ ได้แก่ เรือ MINE SMART FERRY 27 เรือ MINE SMART FERRY 28 และเรือ MINE SMART FERRY 29 โดยผู้ดูแล (คุณวันสวัสดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-1830-3603) แจ้งว่าเรือที่ได้รับความเสียหายยังไม่ได้จดทะเบียนเรือ รอการส่งมอบและตรวจรับเรือให้บริษัท เกิดเหตุเพลิงไหม้เวลา 07.00 น. และสามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อเวลา 08.30 น. จากเหตุเพลิงไหม้ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและไม่มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่แม่น้ำ รวมถึงไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นเรือไฟฟ้า
โดยเรือทั้ง 3 ลำที่เกิดไฟไหม้เป็นเรือไฟฟ้าที่ต่อขึ้นใหม่ที่อยู่ระหว่างทำการส่งมอบให้ลูกค้า
สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการอยู่ระหว่างการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคํา และบันทึกข้อมูลก่อนที่จะสรุปเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา โดยจะเร่งสอบสวนหาสาเหตุภายใน 7 วัน และป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ทั้งนี้ อธิบดีกรมเจ้าท่าได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเรือไฟฟ้าที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบันรวมถึงอู่ต่อเรือและท่าเทียบเรือโดยสำนักงานเจ้าท่าสมุทรปราการได้จัดตั้งทีมชุดพิเศษขึ้นมาตรวจสแกนเรือทุกประเภท ท่าเรือและอู่ต่อเรือในพื้นที่อย่างเข้มข้นทุกวัน
"เบื้องต้นจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้เป็นบริเวณจุดจอดเรือไฟฟ้าสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ของบริษัทก่อนนำเรือออก ไม่ได้เป็นส่วนจองอู่ต่อเรือ"