“ศักดิ์สยาม” ยันคำเดิม "สายสีส้ม" ยังไม่เสนอ ครม.จนกว่าข้อพิพาทจะตัดสินถึงที่สุด ชี้อย่ามโน คิดเอง ตัดสินเอง ยอมรับกังวล งานโยธาสีส้มด้านตะวันออกใกล้เสร็จแต่ยังไม่มีผู้เดินรถ เผยคำวินิจฉัยศาลชี้อย่างไรก็ต้องทำตามนั้น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า ตนได้ชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ไปแล้วว่า โครงการนี้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งมี 5 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1-4 นั้นเป็นเรื่องของหน่วยงานเจ้าของโครงการ ส่วนรัฐมนตรีนั้นจะมีหน้าที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนที่ 5 ซึ่งทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รายงานอย่างไม่เป็นทางการว่าขณะนี้เรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ดังนั้น จะต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมมีคำวินิจฉัยถึงที่สุดก่อน ตอนนี้ยังไม่มีกระบวนการที่จะนำเสนอเข้า ครม.แต่อย่างใด ไม่อยากให้มโนไปเอง ซึ่งแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ ความรับผิดชอบตามอำนาจ และกฎหมายที่มี หลักการทำงานของตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนา คือยึดระเบียบกฎหมายหลักธรรมาภิบาล
ส่วนข้อกังวล เรื่องการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มด้านตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ใกล้จะเสร็จแต่ยังไม่สรุปการคัดเลือกผู้เดินรถและจะทำให้เสียโอกาสนั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงฯ กังวลมากเช่นกัน แต่เมื่อมีข้อพิพาท จะต้องรอกระบวนการทางศาลจบก่อน หากได้ข้อยุติอย่างไรก็ดำเนินไปตามนั้น
“ประเด็นที่มีข้อพิพาทเรื่องทีโออาร์ ที่ศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัย ขณะนี้เมื่อยังไม่ถึงที่สุดก็รอว่าศาลให้ดำเนินการอย่างไร ที่ดำเนินการมานั้นถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกก็ต้องกลับไปดำเนินการใหม่ถึงจะนำเสนอ ครม. ตอนนี้ต้องรอ รฟม.ประมวลเรื่องเสนอมาตามขั้นตอนก่อน และไม่อยากให้ไปคาดเดาว่าศาลจะมีการพิจารณาออกมาอย่างไร” นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมายและกำกับรัฐบาล และเสนอแนะ ไม่มีหน้าที่วินิจฉัยอำนาจตุลาการแต่อย่างใด เหมือนเช่นกรณีที่ดินการรถไฟฯ และการลงบัญชีของการรถไฟฯ กรณีใดที่มีความชัดเจนก็ลงบัญชี มี สตง.ตรวจสอบ แต่หากที่ดินใดที่มีข้อพิพาท ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็ต้องรอคำพิพากษาก่อน ไม่ใช่สรุปเอาเองว่าใช่ ซึ่งขณะนี้ที่ดินที่กล่าวถึงไม่เฉพาะแปลงเขากระโดง แต่มีอีกหลายแปลง ก็ต้องใช้วิธีปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย
“จะเห็นว่าบางเรื่องอาจไม่ทันใจ บางเรื่องทำเร็วก็มีประเด็น เช่น กรณีการย้ายรถไฟเชิงพาณิชย์มาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตอนก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่พอเวลาเชิญมาให้ความเห็นในเวทีสาธารณะ หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว แต่ไม่มีใครมา”