ผู้จัดการรายวัน 360 - บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส “KTMS” สยายปีก เล็งปักหมุดเพิ่มอีก 14 สาขาทั้งให้บริการในรูปแบบศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาล และคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางทั่วประเทศ สอดรับเทรนด์การเติบโตของผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้นทุกปี มั่นใจปั๊มรายได้โต 45% ทะลุระดับ 500 ล้านบาท ขณะที่บริษัทย่อยส่งสัญญาณเชิงบวก เดินหน้าเข้าประมูลงานท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ปีนี้ รวมกว่า 30 ล้านบาท
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS ผู้ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในปี 2566 นี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วงปี 2564-2565 พบว่ามีจำนวนคนไข้เข้ารับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ต่อปี ซึ่งเชื่อว่าจากจำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการจะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนหนึ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงทำให้จำนวนผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าวจะทยอยเข้ารับการรักษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลเชิงบวกต่อการเข้ารับการบริการด้านการรักษาภายใต้ KTMS และจากอดีตที่ผ่านมา บริษัทฯ เติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม ดังนั้นจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ปี 2566 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวมเกินกว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปี 2565
ทั้งนี้ มีแผนขยายสาขาใหม่ในปี 2566 จำนวน 14 แห่ง โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 มีสาขาให้บริการรวม 22 สาขา แบ่งเป็น ศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาลรัฐบาล (outsource) จำนวน 19 สาขา จากปัจจุบันที่มี 22 สาขา ส่วนอีก 3 สาขาเป็นคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (Stand-Alone) โดยปีนี้จะเพิ่มทั้งในส่วนภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น
“การขยายสาขาให้บริการในรูปแบบคลินิกจะมีมาร์จิ้นสูงกว่าศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาล ซึ่งปี 2566 จะขยายสาขาให้บริการในรูปแบบคลินิก 2 สาขา ได้แก่ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าด้านงานก่อสร้างไปมากแล้ว และในจังหวัดพิษณุโลก 1 สาขา โดยล่าสุดปิดดีลซื้อที่ดินแล้ว ขณะนี้เตรียมก่อสร้าง ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ เปิดให้บริการสาขาให้บริการในรูปแบบคลินิกแล้วจำนวน 3 สาขา ได้แก่ ในทำเลพัฒนาการ, จังหวัดตาก และจังหวัดเชียงใหม่”
ส่วนการลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นยังอยู่ระหว่างการศึกษาทำเลและหาซื้อที่ดิน คาดว่าจะชัดเจนปลายปีนี้ หากโรงงานดังกล่าวเสร็จสิ้นจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3-4 ล้านแกลลอนต่อปี จากเดิมที่โรงงานผลิตในกรุงเทพฯ มีกำลังการผลิตที่ 900,000 แกลลอนต่อปี ซึ่งกำลังการผลิตจะเติบโตที่ประมาณ 4 เท่าตัวจากปัจจุบัน
จากแผนการขยายธุรกิจการเติบโตของ KTMS ปีนี้ขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยสัดส่วนรายได้หลักจะมาจากธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ประมาณ 75% และจากบริษัทย่อย 3 บริษัทฯ ที่ 25% ซึ่งการมีสาขารูปแบบคลินิกเพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้งคลินิกไม่ต้องมีการเข้าประมูลในทุกๆ ปีเหมือนศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาล
ในปี 2566 ธุรกิจหลักยังขยายต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอื่นๆ เติบโตในทิศทางเดียวกัน ทั้ง บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IRV) ดำเนินธุรกิจ 1. ธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบ, 2. การผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียม, 3. การให้บริการออกแบบและตกแต่งสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และ 4. การออกแบบ ประกอบ และจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดยปี 2566 คาดว่า IRV จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จากการเตรียมนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ๆ สำหรับสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มาจำหน่ายเพิ่มขึ้น เช่น เก้าอี้สำหรับการฟอกเลือด รถเข็น รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ที่ผ่านมา IRV เริ่มจำหน่ายชุดเซตอุปกรณ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ในช่วงปลายปี 2564 และในปี 2566 จะเริ่มขยายไปตลาดใหม่ๆ
ขณะที่บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (MV) ดำเนินธุรกิจการให้บริการออกแบบ และติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ รวมทั้งบริการดูแลบำรุงรักษาระบบ มีแผนจะเข้าประมูลงานติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์เพิ่มมูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท (มูลค่าโครงการตั้งแต่ 2-8 ล้านบาทต่อโครงการ) และบริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด (NEP) จะเริ่มมีรายได้จากการดำเนินการในคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม 2 สาขา ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจะหนุนให้ KTMS มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะเข้ามาเสริมการรับรู้รายได้ของบริษัทในปี 2566 นี้
