xs
xsm
sm
md
lg

"โควิด" พันธุ์หลักในไทย ยังเป็น BA.2.75 ย้ำ LAAB ยังลบล้างเชื้อได้ แม้บางประเทศยกเลิกใช้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เผย "โควิด" สายพันธุ์หลักในไทยยังเป็น BA.2.75 ถึง 86% ย้ำ LAAB ยังมีฤทธิ์ลบล้างเชื้อไวรัสได้ ปรับกลยุทธ์เข้าถึงในกลุ่มเสี่ยง แม้หลายประเทศยกเลิกการใช้

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีการให้แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (LAAB) หรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป มาตั้งแต่ ก.ค. 2565 โดยให้กับประชากรที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด แต่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงเพียงพอ เช่น ผู้ป่วยกลุ่มภูมิคุ้มกันบกพร่อง กลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือด และกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นต้น แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงได้รับ LAAB ไม่มากนัก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยกรมควบคุมโรค จึงได้ปรับรูปแบบการให้บริการโดยใช้กลยุทธ์เพิ่มโอกาสให้กลุ่มเสี่ยงได้รับรู้ข้อมูลและตัดสินใจ เน้นให้บุคลากรทางการแพทย์ให้ข้อมูลประโยชน์ของ LAAB เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสทราบข้อมูล และซักถาม ก่อนตัดสินใจขอรับ LAAB ได้ที่ รพ.

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า LAAB สามารถปกป้องกลุ่มเสี่ยงจากการป่วยหนักจากโควิด 19 ซึ่งข้อมูลเฝ้าระวังสายพันธุ์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ชี้ให้เห็นว่า ระยะนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในไทยเป็นสายพันธุ์ BA.2.75 ซึ่ง LAAB สามารถใช้ได้ผลดี และปัจจุบันไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กรมควบคุมโรคจึงผลักดันการให้บริการ LAAB แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในสถานดูแลผู้สูงอายุที่อยู่รวมกันจำนวนมากและมีโอกาสติดเชื้อพร้อมกันหลายคน จะช่วยป้องกันการสูญเสียได้ โดยการลดความเสี่ยงป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ การใช้กลยุทธ์ใหม่เป็นการเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้รับข้อมูล LAAB มากขึ้นก่อนการตัดสินใจเข้ารับ และให้เป็นไปตามความสมัครใจ

ศ.พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า แม้มีการยกเลิกการใช้ LAAB ในบางประเทศ เนื่องจากในประเทศนั้นๆ มีการระบาดด้วยสายพันธุ์กลายพันธุ์ เช่น BQ.1, BQ.1.1 และ XBB.1 เป็นหลัก แต่จากข้อมูลล่าสุดของไทยพบว่า สายพันธุ์ที่มีระบาดขณะนี้เป็น BA.2.75 ประมาณ 86% ซึ่งมีข้อมูลในหลอดทดลองว่า LAAB ยังสามารถลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.2.75 ได้ผลดี จึงควรให้ LAAB ในเวลานี้กับผู้ที่สมควรได้รับเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดกับกลุ่มเสี่ยงในไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น