xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มบูทีคเร่งขยาย รร.แบรนด์ใหม่ ผุด “โจโน่” รุกกลุ่ม Digital Nomad

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มบูทีคเร่งเครื่องขยายโรงแรมแบรนด์ใหม่ ปั้นแบรนด์ “JONO HOTELS” (โจโน่ โฮเทลส์)​ คอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล รองรับตลาดท่องเที่ยวเริ่มกลับมาบูมหลังโควิดซาลง นำร่องแล้ว 2 แห่ง วางเป้าหมายอีก 5 แห่งปีนี้ ด้วยสองโมเดลรับบริหารและลงทุนเอง


นายบียอร์น ริชาร์ดสัน (Björn Richardson) รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการการบริการและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายโรงแรมแบรนด์โจโน่ (JONO/ มาจากคำว่า "Journey of the Nomad") เพื่อรองรับตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างมากหากมองในสถานการณ์ปกติ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาจะรุนแรง แต่ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นแล้ว การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ แนวทางการขยายโรงแรมโจโน่ จะมีทั้งการลงทุนพัฒนาสร้างโรงแรมเอง และการรับจ้างบริหารโรงแรมให้กับเจ้าของเดิมโดยใช้แบรนด์โจโน่บริหาร โดยปี 2566 นี้วางแผนว่าจะขยายทั้งสองแนวทางรวมกันให้ได้ประมาณ 5 แห่ง ซึ่งจะมีทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา เป็นต้น ซึ่งล่าสุดมีแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่ที่สุขุมวิท 5 เป็นแบบขนาดใหญ่ จำนวนประมาณ 188 ห้อง

แบรนด์โจโน่เพิ่งเริ่มเปิดตัวและให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เริ่มแห่งแรกที่หาดกะรน ภูเก็ต ซึ่งเป็นโมเดลแบบรับจ้างบริหารชื่อว่า JonoX Phuket Karon (โจโน่เอ็กซ์ ภูเก็ต กะรน) เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2565 มีห้องพักร่วมสมัย 121 ห้อง มีตั้งแต่ห้อง “Recharge Room” ขนาด 21 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง “RechargeX” ขนาด 35 ตร.ม. พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้งานง่าย เช่น สมาร์ททีวี Wi-Fi ความเร็วสูง ด้านบนสุดชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเป็นสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่มาพร้อม ‘Altitude Rooftop Bar’


การเปิดตัว JonoX ภูเก็ตกะรน ประสบความสำเร็จอย่างสูง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทางใน Next Normal มีอัตราการเข้าพักถึง 90% เกือบทุกวันในช่วงสองเดือนที่เหลือของไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเดินทางจากตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และกลุ่มตลาด CIS (รัสเซีย ยูเครน และคาซัคสถาน)

โครงกาารที่สองคือ “Jono Bangkok Asok” (โจโน่ กรุงเทพฯ อโศก) เป็นการลงทุนของบริษัทฯ เองเปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นซิตี้โฮเต็ลที่มาพร้อมสไตล์และการบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ ตั้งอยู่ในย่านอโศก ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยศูนย์การค้าชั้นนำ ร้านอาหาร ความบันเทิง อาคารสำนักงานที่เต็มไปด้วยบริษัทข้ามชาติชื่อดัง ใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และติดรถไฟฟ้า BTS (สถานีอโศก) และ MRT (สถานีสุขุมวิท) ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักที่ 50% และคาดว่าเดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มเป็น 75%


ภายในโรงแรมจะให้บริการแบบครบวงจรที่จะเป็นตัวเลือกสำหรับชาว Digital Nomad (นักเดินทางที่ทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก) ภายในอาคาร Low Rise ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 65 ห้อง ตั้งแต่ “Recharge” (ห้องรีชาร์จ) ขนาด 14 ตารางเมตร, “RechargeX” (ห้องรีชาร์จเอ็กซ์) ขนาด 17 ตารางเมตร แบบเตียงแฝด และ “Snooze Blackout” (ห้องสนูซ แบล็กเอาต์) หรือห้องไม่มีหน้าต่าง ขนาด 16 ตารางเมตร พร้อมสรรพสิ่งอำนวยความสะดวกไฮเทค เช่น การคลิกแอปพลิเคชัน JONO จากสมาร์ทโฟนของผู้เข้าพัก ก็สามารถพูดคุยกับแผนกต้อนรับ สั่งรูมเซอร์วิส จัดเตรียมการเดินทาง จองกิจกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย

“รวมทั้งมี “Co-Working Space” โดยบริเวณล็อบบี้จะมีโซนครัว ไมโครเวฟ ชาและกาแฟบริการฟรีตลอดทั้งวัน เป้าหมายของ JONO คือการตอบโจทย์คนยุคใหม่วัย Gen X-Gen Z รวมถึง “Digital Nomad” หรือกลุ่มนักเดินทางที่ทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลกผ่านดิจิทัล กลุ่มลูกค้าที่มาส่วนใหญ่มีทั้งการจองผ่านเอเยนต์ หรือการจองผ่านโอทีเอ การวอล์กอิน ซึ่งราคาห้องพักจะแตกต่างกันไปตามทำเล เช่น ที่กรุงเทพฯ อโศกตอนนี้ประมาณ 1,600 บาทต่อคืนต่อห้อง ส่วนที่ภูเก็ตเวลานี้จะราคาสูงกว่าเพราะเป็นช่วงไฮซีซัน” นายบียอร์นกล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น