ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์ จัดงาน Open House พาชมโครงการฟินน์ อโศก ตึกจริงครั้งแรกวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2566 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล ติดสวนเบญจกิติ เดินเพียง 3 นาที ทำเลใจกลางอโศก เอาใจคนเมืองรักธรรมชาติ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตครบ 360 องศา
นายพงศธร จอม สาลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ‘ฟินน์ อโศก’ เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์โครงการที่ 3 ภายใต้แบรนด์ “ฟินน์” เจาะตลาดกลุ่มนิช พรีเมียม ชูจุดเด่นทำเลทองติดสวนเบญจกิติ เดินเพียง 3 นาที และอยู่ใจกลางอโศก บนสุขุมวิท ซอย 10 ห่างจากสถานีบีทีเอสอโศก เพียง 350 เมตร พร้อมต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 60 ปี ยืนต้นอย่างงดงามภายในโครงการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนที่ต้องการใช้ชีวิตในเมือง พร้อมใกล้ชิดธรรมชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ด้วยจุดเด่นที่เน้นความสงบและความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว เหมาะสำหรับคนเมืองที่สนใจการดูแลตนเอง และ รักการออกกำลังกาย ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่สามารถเดินเชื่อมไปยังสวนเบญจกิติได้ง่ายๆ เพียง 200 เมตร เปรียบเสมือนการมีสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.99 ล้านบาทเท่านั้น ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 75% คาดปิดการขายได้ภายใน ปี 2566
ฟินน์ อโศก ออกแบบภายใต้แนวคิดโมเดิร์น ทรอปิคอล ฟื้นฟูสมดุลของการใช้ชีวิตใจกลางเมือง ด้วยการเชื่อมหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจที่หนาแน่นที่สุดเข้ากับความร่มรื่นของธรรมชาติ แรงบันดาลใจในการออกแบบ โครงการฟินน์ อโศก เปรียบดั่งโอเอซิสแห่งความสงบร่มรื่นใจกลางความเร่งรีบของย่านธุรกิจกลางเมือง โดยรอบตัวอาคารดูมีชีวิตจากเส้นโค้งเว้า ได้ผสมผสานบริบททางธรรมชาติโดยรอบอย่างลงตัว ตัวอาคารตั้งล้อมรอบต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 60 ปี ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาอย่างงดงาม และสร้างบรรยากาศการหลอมรวมกับพื้นที่สีเขียวอย่างน่าประทับใจ ปล่อยวางความตึงเครียดของชีวิตใจกลางเมือง สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระที่จะช่วยปลดปล่อยความเครียด และดำดิ่งลงสู่ความอิสระ
ฟินน์ อโศก เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ตกแต่งพร้อมอยู่สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดรวมทั้งหมด 263 ห้อง โดยแบ่งเป็น อาคาร A จำนวน 144 ห้อง และอาคาร B จำนวน 119 ห้อง พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุ ที่มีคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกอาคารอย่างครบครัน เช่น ห้องรับรองแขก พื้นที่ทำงานรวม ห้องฟิตเนส ห้องขี่จักรยานจำลอง ห้องโยคะ ห้องดูหนัง ศาลาจามจุรี สระว่ายน้ำความยาว 25 เมตร สระเด็กและถ้ำจำลอง และไฮไลต์สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้า พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร เช่น สวน และทางออกกำลังกาย แปลงปลูกผัก ระเบียงชมพระอาทิตย์ตก ฟอเรส เลานจ์ ครัวกลางแจ้ง เตาบาร์บีคิว เป็นต้น รูปแบบห้องชุดของโครงการ ประกอบด้วยห้อง 6 ประเภท ได้แก่ 1 ห้องนอนขนาด 24-49 ตารางเมตร 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 40-62 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาด 48-57 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 46-68 ตารางเมตร 3 ห้องนอนขนาด 104 ตารางเมตร และห้องดูเพล็กซ์ขนาด 120 ตาราง เมตร โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.99 ล้านบาท
นายชาญวิชญ์ พสุวัต หัวหน้าแผนกพัฒนาการออกแบบโครงการบริษัทซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นเพิ่มเติมในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า “ภาพรวมตลาดที่พักอาศัยถือว่ามีการเคลื่อนไหวและปรับตัวได้ดี โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความระมัดระวังในการเปิดตัวโครงการมากขึ้น จึงทำให้มีซัปพลายใหม่เติมเข้ามาในตลาดจำนวนไม่มาก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต่างมุ่งเน้นขายโครงการที่กำลังก่อสร้างหรือแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จึงทำให้อัตราส่วนยอดขายโดยเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จในทำเลใจกลางเมืองมีอัตราสูงถึง 93% โดยทำเลที่มีจำนวนยูนิตขายได้สูงที่สูดคือทำเลสุขุมวิท ทั้งนี้ ในแง่ภาพรวมเศรษฐกิจเราจะเห็นการปรับตัวไปในทิศทางที่บวกไม่ว่าจะเป็น GDP ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (CCI) มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจากดัชนีชี้วัดดังกล่าวถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดโดยรวม
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลที่ดีต่อโครงการฟินน์ อโศก ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ อีกทั้งตัวโครงการตั้งอยู่บนหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อย่างอโศก-สุขุมวิท ซึ่งรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมออฟฟิศเกรดเอ ที่อยู่อาศัย พื้นที่ค้าปลีก (retail) และที่สำคัญอยู่ใกล้กับสวนเบญจกิติเพียง 200 เมตร แนวโน้มเชิงบวกในตลาดที่สำคัญอีกประการคือ สัญญาณการกลับมาของลูกค้าต่างชาติ โดยตัวเลขยอดขายลูกค้าต่างชาติ (foreigner purchaser) และจำนวนลูกค้าต่างชาติที่สอบถามเข้ามา (foreigner inquiry) ของซีบีอาร์อีที่ผ่านมา มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเทียบกับปีที่ตัวเลขต่ำที่สุดในปี 2563 ตัวเลขยอดขายลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 7.9% และในปี 2565 สูงขึ้นเป็น 16.4% จำนวนลูกค้าต่างชาติที่สอบถามเข้ามาในปี 2563 คิดเป็น 6% และสูงขึ้นเป็น 10.7% ในปี 2565 จากตัวเลขดังกล่าวและการเปิดการเดินทางระหว่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีน ซีบีอาร์อีคาดว่าปีนี้จะมีตัวเลขลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวดีขึ้น