ผู้จัดการรายวัน360- "โลตัส" โหมหนักปีนี้ ทุ่มงบลงทุนกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท มากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ย้ำมองระยะยาว ยอมรับระยะสั้นย่อมมีปัญหาในภาพรวมแน่นอน ย้ำปีนี้สถานการณ์รวมน่าจะดีขึ้น ล่าสุดผุดโมเดลใหม่ โลตัส พรีเว่ ด้านไอซีเอส เปิดบริการเฟสแรกแล้ววันพุธ 11 มกราคมที่ผ่านมา
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า ปี2566นี้โลตัสวางงบลงทุนรวมไว้มากถึง 11,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าช่วงปกติที่ผ่านมา เนื่องจากโลตัสมองการลงทุนระยะยาวมีความมั่นใจกับเสถียรภาพและศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว แม้ว่าในระยะสั้นจะมีปัญหาอยู่ต่อเนื่องก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 ที่ยังมีการระบาดอยู่บ้างหรือปัญหาเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ตลอดจน เรื่องต้นทุนดำเนินการปีนี้เรามองว่าสถานการณ์ต่างๆเริ่มน่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และคาดว่าตลาดรวมค้าปลีกรวมทั้งรายได้จะกลับมาเท่าเดิมก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด บรรยากาศการจับจ่ายการซื้อตอนนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับตั้ืงแต่ปลายปีมาแล้ว มาตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงเทศกาลจับจ่ายต่อเนื่องถึงตรุษจีนอีก ผนวกกับมาตรการช้อปดีมีคืนของรัฐบาลเข้ามากระตุ้นอีก รวมไปถึงการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามาท่อวงเที่ยวในไทยโดยเฉพาะนักท่องเที่่ยวจีนที่เริ่มเข้ามามากขึ้นแล้ว ส่งผลให้ตลาดค้าปลีกและท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น
โดยวงเงินลงทุนมากกว่า 50% จะนำไปใช้ในเรื่องของสายขา ทั้งการขยายสาขาใหม่ การปรับปรุงสาขาเดิม และการพัฒนารูปแบบใหม่ๆด้วย ทั้งนี้ปีนี้คาดว่าจะมีการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง เช่น ไฮเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่มากกว่า 3,000 ตารางมเตรขึ้นไป เปิดใหม่ประมาณ5 สาขา เช่นเดือนหน้าจะเปิดสาขาที่สีคิ้ว โมเดลขนาดกลาง ประมาณ 5 สาขาโมเดลโลตัสโกเฟรช ประมาณ 200 สาขา
ล่าสุดได้เปิดโมเดลใหม่ โลตัส พรีเว่ ลงทุนประมาณ 100 กว่าล้านบาท เป็นการเช่าพื้นที่ในโครงการ ไอซีเอส เจริญนคร พื้นที่ประมาณ 2,900 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นสาขาแรกของแบรนด์โลตัส พรีเว่ นี้ เป็นสาขานำร่อง ส่วนจะมีสาขาที่สองเมื่อไรนั้นคาดว่าปลายปีอาจจะเห็นได้ ในกรุงเทพเช่นกัน
“สาเหตุที่เราเลือกเปิดตัว Lotus’s Privé สาขาแรกในโครงการไอซีเอส มาจากความเหมาะสมของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีทั้งโครงการคอนโดมีเนียมระดับหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรมชั้นนำที่รายล้อมโครงการ รวมถึงโรงแรม Hilton Garden Inn ที่ตั้งอยู่ในโครงการไอซีเอส ชุมชนที่พักอาศัย ย่านธุรกิจที่สำคัญ ประกอบกับศักยภาพของโครงการ ICONSIAM ที่เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำระดับโลกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อกับโครงการไอซีเอสผ่านรถไฟฟ้าสายสีทองสถานีเจริญนคร โดย Lotus’s Privé เป็นหนึ่งในผู้เช่าหลักของโครงการไอซีเอส ครอบคลุมพื้นที่ชั้น B1 ทั้งหมดประมาณ 2,900 ตารางเมตร
“Lotus’s Privé มีหัวใจหลักคือสินค้าที่มีคุณภาพสูง ครบครัน หลากหลาย ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าเหนือกว่าราคาที่เอื้อมถึง และการให้บริการที่สมาร์ทผ่านทุกช่องทาง จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น อาหารสด อาหารแห้ง เครื่องใช้ภายในครัวเรือน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม โดยเน้นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ มีสินค้านำเข้ามากกว่า 40% จากเดิมสาขาทั่วไปสินค้านำเข้าไม่เกิน 20%”
จุดเด่นและกลุ่มสินค้าเช่น อาหารสดนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เนื้อวัว กุ้งมังกร ปลาแซลมอน หอยเชลล์ ปู ชีส ผักและผลไม้ ,อาหารสดคัดสรรส่งตรงจากแหล่งต่าง ๆ ในประเทศไทย อาทิ ปลาทะเลจากระนอง หอยนางรมจากสุราษฏร์ธานี ผักออร์แกนิก ผลไม้ที่คัดสรรจากแหล่งที่มีชื่อเสียงทั้งในไทยและผลไม้นำเข้า เช่น ทุเรียนจันทบุรี ผลไม้นอกฤดูกาล, บริการสั่งสินค้าพรีออเดอร์ ประเภท Seafood ที่ขึ้นฝั่งจากทะเลแบบวันต่อวัน สดใหม่ โดยสามารถสั่งสินค้าล่วงหน้า 3 วัน, ขนม ชา กาแฟ เครื่องปรุง สำหรับประกอบอาหารนานาชาติ, สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม อาทิ เครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำ วิตามินและอาหารเสริม, เครื่องใช้ในบ้าน โดยมีเครื่องครัวที่ตอบโจทย์การทำอาหารหลายสัญชาติ, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนอกเหนือจากสินค้าที่จำหน่ายในสาขาแล้ว ยังมีสินค้าที่สามารถ pre-order ได้ โดยมีบริการจัดส่งและติดตั้งฟรี และ True Living Tech ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบสมาร์ท, สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงจาก Pet Us สินค้าครบครัน
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเอส จำกัด กล่าวว่า โครงการไอซีเอส พร้อมเปิดบริการส่วนของพื้นที่รีเทลเฟสแรกตั้งแต่วันนี้ (11 ม.ค.) บนศักยภาพทำเลทองเชื่อมต่อจากไอคอนสยาม โดยมีรถไฟฟ้าสายสีทองสถานีเจริญนครเป็นจุดเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย การเดินทางครอบคลุมทั้ง รถ ราง เรือ รองรับกำลังซื้อมหาศาลจากเมืองที่กำลังขยายตัว ทั้งจากกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่มีกว่า 2 ล้านคน และรอบพื้นที่ในระยะ 5 กิโลเมตรอีกกว่า 3-5 ล้านคน และการขยายตัวจากแผนการย้ายศูนย์ราชการมายังย่านคลองสาน ส่งผลให้พื้นที่มีความตื่นตัว เกิดการพัฒนาที่ดินเป็นที่พักอาศัยในรูปแบบอาคารสูงมากกว่า 50 โครงการ และที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมอีกกว่า 25,000 ยูนิต รวมทั้งการขยายบริการของโรงพยาบาลตากสิน โดยก่อสร้างอาคารผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 600 เตียง เป็นต้น
ดังนั้น ไอซีเอสจึงออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความหลากหลายของกลุ่มลูกค้าภายใต้ไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าหลักทั้งพนักงานออฟฟิศ เจ้าของธุรกิจ และประชาชนทั่วไป รวมถึงนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะการขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โครงการ ไอซีเอส จึงเป็น “จิ๊กซอว์” ชิ้นสำคัญทำให้ภาพของการเนรมิตสร้างเมืองใหม่ฝั่งธนบุรีของไอคอนสยามสมบูรณ์แบบ โดยครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์มากขึ้น ส่วนในแง่ของผู้บริโภคเอง ก็จะเข้าถึงทางเลือกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันได้หลากหลายขึ้นเช่นกัน
