xs
xsm
sm
md
lg

“ศักดิ์สยาม” ตรวจ "สุวรรณภูมิ" พร้อมรับเดินทางปีใหม่ คาดจีนเปิด ปท.นักท่องเที่ยวเข้าไทยปีนี้ 7-10 ล้านคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศักดิ์สยาม” ตรวจสุวรรณภูมิรับเดินทางปีใหม่ และคาดนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มเป็น 3.1-3.4 แสนคน/วันหลังเปิดประเทศ ประเมินทั้งปี 7-10 ล้านคน ส่วนแก้รอกระเป๋านาน เฉลี่ย 44 นาทียังไม่พอใจ สั่งจัดโซนนิ่งแยกบริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปฯ  พร้อมสั่งเร่งเปิดอาคาร SAT-1 ในไตรมาส 2/66

วันที่ 28 ธ.ค. 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อติดตามการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ว่า ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งความล่าช้าของขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระอย่างเร่งด่วน ซึ่งพบว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ท่าอากาศยานมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางทั้งขาเข้าและขาออก เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 4 นาที (นับตั้งแต่ผู้โดยสารเดินเข้าสู่พื้นที่รอคอยจนถึงการลงตรา) สำหรับช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ยคนละ 15 นาที รวมทั้งจัดระเบียบคิวผู้โดยสารที่รอรับบริการ

และวางแผนล่วงหน้าไปถึงปี 2566 ที่คาดว่าจะมีการเปิดอาคารผู้โดยสาร SAT-1 เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน/ปี หรือ 3-4 หมื่นคน/วัน ให้มีจุดตรวจคนเข้าเมืองชั่วคราว เพื่อลดความแออัดในอาคารหลัก โดยได้เร่งให้ ทอท.เปิดอาคาร SAT-1 ภายในไตรมาส 2/2566 จากเดิมจะเปิดในเดือน ก.ย. 2566


ในส่วนของการให้บริการกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารได้ตรวจสอบระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณสัมภาระ พร้อมทั้งกำชับผู้ให้บริการภาคพื้นที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารทั้ง 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (BFS) ในการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที

ซึ่งแม้ว่าจะดีขึ้นกว่าเดิมแต่ยังไม่ตอบโจทย์ในการรองรับผู้โดยสาร จึงมอบให้ ทอท.ไปดำเนินการแก้ปัญหาในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเบื้องต้นให้สายการบินที่มีศักยภาพบริการตัวเองได้

ทั้งนี้ ระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระในแต่ละเที่ยวบิน ขึ้นอยู่กับระยะทางของหลุมจอดอากาศยานกับจุดขนถ่ายสัมภาระ ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าปัญหาความล่าช้าของกระเป๋าสัมภาระ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินล่าช้า (Flight Delay) รวมทั้งการขาดบุคลากรและอุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้น เนื่องจากช่วงของการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ให้บริการภาคพื้นเร่งจัดสรรกำลังคนมาบริหารจัดการสัมภาระผู้โดยสารเป็นอันดับแรก โดยต้องมีบุคลากรให้เพียงพอและสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรับกระเป๋าสัมภาระ ทั้งในเที่ยวบินปกติและกรณีที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น


สำหรับปัญหาการรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะนานที่ผ่านมา ปัจจุบันมีรถบริการ 2,600 คัน ซึ่งเพียงพอสำหรับช่วงปกติไม่ใช่เที่ยวบินหนาแน่น ซึ่งให้ ทอท.ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและเปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่มเพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น รวมทั้งขยายพื้นที่รอคอยกดตั๋วแท็กซี่ และกำหนดจุดยืนรอคิวรับบริการแท็กซี่ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถลดระยะเวลาการรอคิว เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน

นอกจากนี้ให้ ทอท.จัดพื้นที่หรือโซนนิ่งให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเรียกใช้บริการแท็กซี่จากระบบแอปพลิเคชันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสับสนในการใช้บริการ

โดยคาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565-4 มกราคม 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินของ ทอท.ประมาณกว่า 2 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 3 แสนคน เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ส่วนเที่ยวบินรวมมีกว่า 12,000 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละกว่า 1,700 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิคาดว่าเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโตกว่า 140% และผู้โดยสารเติบโต 260% จากปีใหม่ปีที่แล้ว

ขณะที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินภูเก็ตคาดว่ามีเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโต 90% และ 80% ส่วนผู้โดยสารคาดว่าเติบโต 130% และ 170% ตามลำดับ ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ Single Command Center เพื่อบริหารจัดการเรื่องความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเวลา Peak Hour เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


@คาด ม.ค. 66 นักท่องเที่ยวจีนทยอยเดินทางเพิ่ม 3.1-3.4 แสนคน/วัน

ส่วนกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนจะยกเลิกข้อกำหนดการกักกันสำหรับผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากนอกพรมแดนของประเทศ เตรียมเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 นั้น ทอท.คาดว่าตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่จะเริ่มมีสายการบินทยอยแจ้งขอกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยเป็นการแจ้งล่วงหน้าก่อนวันหยุดปีใหม่เพื่อเตรียมเที่ยวบินให้พร้อมช่วงต้นเดือนมกราคม 2566 ที่จะเปิดประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการกลับมาทำการบินที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่และภูเก็ตก่อน รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงกลางเดือน-ปลายเดือนมกราคม 2566 เช่นกัน

ทั้งนี้ คาดการณ์ในช่วงเดือนปีใหม่ต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนมกราคม 2566 ผู้โดยสารจะเดินทางเฉลี่ยวันละประมาณ 310,000-340,000 คน จากปัจจุบันเดือนธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 275,000 คน และเป็นผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละประมาณ 140,000-170,000 คน จากปัจจุบันธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 133,000 คน


@ ประเมินปี 66 มีนักท่องเที่ยวจีนรวม 7-10 ล้านคน จากก่อนโควิดมี 20.5 ล้านคน/ปี

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ ทอท.ประมาณ 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม การที่เที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกลับเข้ามาทำการบินที่ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ได้กำชับให้ท่าอากาศยานต้องเตรียมการเรื่องการให้บริการของผู้ประกอบการภาคพื้น (ground handling) ให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้าหรือความไม่พร้อมในการให้บริการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้าน

สำหรับมาตรการในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนนั้น กระทรวงคมนาคมเตรียมหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันที่ 5 ม.ค. 2566 เพื่อกำหนดมาตรการทางสาธารณสุขในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น