ประเทศไทยติดอันดับ 2 จุดหมายปลายทางที่คนจีนค้นหาอยากมาเที่ยวมากที่สุด หลังรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศ ขณะที่จุดหมายอันดับ 1 ได้แก่ประเทศญี่ปุ่น ด้านศูนย์วิจัยกสิกรคาด ปี 66 อาจมีชาวจีนมาเที่ยวไทยมากกว่า 1 ล้านคน
หลังรัฐบาลจีนมีมาตรการผ่อนคลายด้านโควิด เริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 8 มกราคม พ.ศ.2566 โดยชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศจีน ผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบและตรวจผลโควิดภายใน 48 ชั่วโมง สามารถเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องกักตัว นอกจากนี้คนจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ก็สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องขออนุญาตด้วยการอ้างเหตุผลจำเป็นอีกต่อไป
ทั้งนี้หลังรัฐบาลจีนออกนโยบายเปิดประเทศ ทางสำนักข่าว CNBC เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ว่า Trip.com Group มีรายงานว่า การเตรียมกลับมาเปิดประเทศของจีนนั้น ก็เพื่อรองรับแผนที่จะให้มีการท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนที่จะถึงนี้ ซึ่งก็อยู่ในช่วงราวปลายเดือนมกราคมของปี 2566
Trip.com Group ยังรายงานต่อว่า หลังจีนมีนโยบายเปิดประเทศ ทำให้การค้นหาด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี โดย 10 จุดหมายปลายทางที่คนจีนค้นหาเพื่อต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด ญี่ปุ่นมาเป็นอันดับ 1 ไทยมาเป็นอันดับ 2 ส่วนเกาหลีใต้มาเป็นอันดับ 3 โดยไม่มีประเทศในแถบยุโรปแต่อย่างใด
สำหรับ 10 จุดหมายปลายทางในต่างประเทศที่คนจีนค้นหาเพื่อต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดหลังเปิดประเทศ ได้แก่
1.ญี่ปุ่น
2.ไทย
3.เกาหลีใต้
4.สหรัฐอเมริกา
5.สิงคโปร์
6.มาเลเซีย
7.ออสเตรเลีย
8.สหราชอาณาจักร
9.มาเก๊า
10.ฮ่องกง
ด้าน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้มีมุมมองการทยอยผ่อนคลายมาตรการฯ ของทางการจีน ต่อตลาดการท่องเที่ยวของไทยในปี 2566 ดังนี้
-ภายใต้การคาดการณ์ที่ยังระมัดระวัง ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2566 อาจเพิ่มกว่า 3-4 เท่าตัวจากปี 2565 หรือขยับขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคน และตัวเลขอาจจะมากกว่านี้ได้หากเงื่อนไขต่างๆ เอื้อต่อการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทางการจีนอนุญาตให้ผู้ประกอบการกรุ๊ปทัวร์จากต่างประเทศเข้าไปทำการตลาดได้ ขณะที่ 11 เดือนแรกปี 2565 ชาวจีนเที่ยวไทยมีจำนวน 219,421 คน และน่าจะปิดปี 2565 ด้วยจำนวนกว่า 2.6 แสนคน
-ชาวจีนที่จะเดินทางมาในช่วงแรกๆ น่าจะยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเอง (Free Independent Traveler: FIT) เป็นกลุ่มเล็กๆ มากกว่ากรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าเงื่อนไขต่างๆ ลงตัวมากขึ้น เช่น การระบาดของโควิดไม่รุนแรง การกลับมาเปิดทำการของสายการบินระหว่างประเทศ การเข้าไปทำการตลาดในแต่ละมณฑลในจีนได้มากขึ้นของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น คงจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เร่งตัวขึ้น
-ภาพการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย หากเร่งตัวขึ้นได้ไม่ทันในไตรมาสแรกของปีที่มีวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปี 2566 ตรงกับเดือนมกราคม (ก่อนโควิด ไตรมาสแรกปี 2562 มีชาวจีนเดินทางเข้าไทยราว 28% ของทั้งปี) ก็อาจจะเห็นการเร่งตัวขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามซึ่งเป็นช่วงปิดภาคการศึกษาและต่อเนื่องกับวันหยุดเนื่องในวันชาติจีนในต้นไตรมาสสุดท้าย (ก่อนโควิด ไตรมาสที่ 3 ปี 2562 มีชาวจีนเดินทางมาไทยราว 26% ของทั้งปี)
-แหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนนิยมเดินทางไป ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลัก แต่ในระยะหลังพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ก็เริ่มหันมาท่องเที่ยวในเมืองรองตามชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เป็นกระแสนิยมมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้การผ่อนคลายเงื่อนไขต่างๆ ของทางการจีน จะเป็นสัญญาณบวกต่อภาพการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในระยะข้างหน้า เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญอันดับต้นๆ ที่ชาวจีนนิยมเดินทางมา อย่างไรก็ตาม การกลับมาของชาวจีนเที่ยวไทยยังต้องใช้เวลาเช่นกันกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติหรือกลับไปเท่ากับก่อนเกิดการระบาดของโควิดในปี 2562 ที่มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านคน หรือเฉลี่ยมากกว่า 9 แสนคนต่อเดือน
ดังนั้น ภายใต้มุมมองที่ระมัดระวังต่อการทยอยเพิ่มขึ้นของตลาดนักท่องเที่ยวจีน และการฟื้นตัวดีขึ้นของตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกท่ามกลางทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2566 ไว้ที่ 20-24 ล้านคน เพิ่มเป็นเท่าตัวจากกว่า 11 ล้านคนในปี 2565