PTTGC คาดอย.ไฟเขียวรับรองความปลอดภัยใช้พลาสติกรีไซเคิลในการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มไตรมาส 1/2566 หนุนรายได้โรงงานผลิตพลาสติกรีไซเคิลENVICCO ในเครือฯเดินเครื่องจักรมากขึ้น คาดปีหน้าโกยรายได้ทะลุพันล้านบาท
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)(PTTGC )เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ENVICCO อยู่ระหว่างรอองค์การอาหารและยา(อย.)อนุมัติใบอนุญาตรองรับมาตรฐานความปลอดภัยการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลชนิด rPET เพื่อขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม คาดว่าจะได้รับการอนุมัติช่วงไตรมาส 1 / 2566 ทำให้โรงงาน ENVICCO ซึ่งเป็นโรงงานผลิตพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับ Food Grade ในเครือPTTGC สามารถเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเป็น 60-70%จากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 40%ของกำลังการผลิตรวม
ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามก็มีการใช้พลาสติกรีไซเคิล rPETในการบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มแล้ว ขณะเดียวกันยุโรปออกกฎระเบียบจัดเก็บภาษีเพื่อให้บรรจุภัณฑ์ต้องมีส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิล เพื่อลดภาวะโลกร้อนแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกำแพงภาษีสำหรับผู้ส่งออกสินค้าไปยุโรป
ทั้งนี้ โรงงาน ENVICCO เป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับ Food Grade ที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ (U.S. Food and Drug Administration : US FDA) แห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยโรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 45,000 ตันต่อปี แบ่งเป็นเม็ดพลาสติก ชนิด rPET จำนวน 30,000 ตันต่อปี และ เม็ดพลาสติก ชนิด rHDPE จำนวน 15,000 ตันต่อปี โดยใช้วัตถุดิบทั้งหมด 100% เป็นพลาสติกใช้แล้วในประเทศ ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย เพื่อคืนคุณค่าให้กับพลาสติกใช้แล้วให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าอีกครั้งและมีคุณสมบัติเทียบเท่าพลาสติกใหม่
นายณัฐนันท์ ศิริรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) กล่าวว่า เม็ดพลาสติกรีไซเคิลจะมีราคาสูงกว่าเม็ดพลาสติกทั่วไป 20-30% แต่เมื่อเทียบกับการที่ผู้ประกอบการโดนภาษีจากยุโรปที่กำหนดให้ผู้ส่งออกสินค้าไปยุโรปต้องใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็นส่วนผสมที่มีอัตราเสียภาษีประมาณ 800 ยูโรต่อตันที่จะบังคับใช้ปี 2566 ดังนั้นการใช้พลาสติกรีไซเคิลจะคุ้มค่ากว่าการถูกเรียกเก็บภาษี
ปัจจุบันโรงงานENVICCO มีการผลิตเพื่อส่งออกเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 70% และจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการในประเทศประมาณ 30% มีรายได้หลักร้อยล้านบาท คาดว่าในปีหน้าเมื่ออย.อนุมัติมาตรฐานความปลอดภัยการใช้พลาสติกรีไซเคิลเพื่อบรรจุอาหารและเครื่องดื่มได้แล้ว รายได้จะขยับเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันล้านบาท และคาดว่าจะใช้เวลา2-3ปีเพื่อเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต โดยโรงงานนี้มีพื้นที่เตรียมพร้อมรองรับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกเท่าตัว
ทั้งนี้ ENVICCO ดำเนินการภายใต้ บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO Limited) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง PTTGC และ ALPLA ผู้นำระดับโลกในธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก และพลาสติกรีไซเคิล โดยทั้ง 2 บริษัท มีความตั้งใจร่วมกันที่จะรักษาคุณค่าของพลาสติกไว้ให้มากที่สุด โดยการดำเนินการของ ENVICCO จะช่วยลดขยะพลาสติกในประเทศไทย ได้ถึง 60,000 ตันต่อปี ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เทียบเท่าการปลูกป่าประมาณ 78,000 ไร่ หรือ ปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 8.32 ล้านต้น ถือเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่จะทำให้ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ครบสมบูรณ์ และยังช่วยให้เกิดการสร้างงานในชุมชน แนะรัฐออกนโยบายกระตุ้นการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลเพิ่ม ช่วยขยายเครือข่ายชุมชนคัดแยกขยะทั่วประเทศ เสริมรายได้ รักษาสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ BCG Modelของประเทศไทย