กกพ.ปรับขยายเวลาการการส่งข้อมูลยื่นเสนอขายไฟฟ้าพลังงานทดแทน 4 ประเภท ปริมาณ 5,203 เมกะวัตต์ออกไปเป็นวันที่ 9 ธ.ค. และประกาศผู้ได้รับคัดเลือกทั้งหมดเป็นวันที่ 22 มี.ค. 66 หลังดาวน์โหลดเอกสารล่าช้า
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ. ) เปิดเผยว่า บอร์ด กกพ.ได้ออกประกาศว่าด้วยการเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 โดยขยายเวลาประกาศออกไปเล็กน้อย หลังจากที่เปิดให้เอกชนยื่นสมัคร และต้องดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อยื่นต่อ 3 การไฟ้ฟ้าภายในวันที่ 25 พ.ย. 65 แต่เกิดปัญหาการดาวน์โหลดล่าช้าเพราะมีผู้สมัครเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงทำให้ต้องปรับระยะเวลาต่างๆ ออกไปเล็กน้อย โดยเลื่อนระยะเวลาส่งข้อมูลหลังรับสมัครแล้วออกไปจากเดิมภายในวันที่ 25 พ.ย.ขยายเป็นวันที่ 30 พ.ย. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการพิจารณาจากเดิมวันที่ 2 ธ.ค. 65 เป็นวันที่ 9 ธ.ค.65 การประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกทั้งหมดเลื่อนจาก 15 มี.ค. 66 เป็น 22 มี.ค. 66 ส่วนกำหนดไฟฟ้าเข้าระบบจะเป็นไปตามเดิม
“ขอยืนยันการพิจารณาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส พิจารณาบนหลักเกณฑ์ความพร้อมจ่ายของแต่ละราย โดยไม่ได้พิจารณาค่าไฟที่เสนอมา เพราะ FiT เป็นไปตามที่ กพช.กำหนด โดยหลักเกณฑ์รายละเอียดทางอนุกรรมการ กกพ.จะพิจารณาและประกาศในเร็วๆ นี้” นายคมกฤชกล่าว
ทั้งนี้ กกพ.ประกาศรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนปี 2565-73 รวม 5,203 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น 1. ก๊าซชีวภาพ 335 เมกะวัตต์ 2. พลังงานลม 1,500 เมกะวัตต์ 3. พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Battery storage) 1,000 เมกะวัตต์ 4. พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 2,368 เมกะวัตต์
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ
Feed-in-Tariff (FiT) พ.ศ.2565-2573
สำหรับเชื้อเพลิง4 ประเภทรวมปริมาณรับซื้อไฟฟ้า5,203 เมกะวัตต์ ภายหลังครบกำหนดการเปิดให้ยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าเมื่อวันที่
25 พ.ย.2565
เบื้องต้นปรากฎว่า เชื้อเพลิงประเภทก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย)
มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการไม่ถึง50 เมกะวัตต์
ต่ำกว่าเป้าหมายที่เปิดรับซื้อ335 เมกะวัตต์ เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าราคารับซื้อไฟฟ้าต่ำ
เกินไปเพียง2.0724 บาทต่อหน่วย จึงรอไปขายในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน
ที่ภาครัฐจะเปิดรับซื้อในเฟสต่อไปแทน ซึ่งได้ราคาอยู่ที่ประมาณ3-4
บาทต่อหน่วย
ส่วนเชื้อเพลิงประเภทลม
ที่เปิดรับซื้อ1,500
เมกะวัตต์,แสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน2,368
เมกะวัตต์ และแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน1,000
เมกะวัตต์
มีการเสนอขายไฟฟ้าเข้ามาจำนวนมาก
เกินกว่าโควต้าที่เปิดรับซื้อไว้ทั้งหมด
แม้ราคารับซื้อจะไม่สูงมากนัก
แต่ผู้ประกอบการเลือกที่จะเข้าร่วมโครงการขายไฟฟ้ารอบนี้ เนื่องจากไม่แน่ใจว่า
ภาครัฐจะเปิดรับซื้ออีกเมื่อไหร่
โดยโดยราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานลม อยู่ที่3.1014
บาทต่อหน่วย, พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน2.1679
บาทต่อหน่วย และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน
อัตรา2.8331 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้การที่ภาครัฐกำหนดราคารับซื้อไว้ต่ำ เนื่องจากต้องการนำมาใช้ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าประชาชนในอนาคต
