นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าบริหารมาใช้ในภาคครัวเรือนก่อน เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชน ในงวดแรกของปี 2566 (มกราคม-เมษายน 2566) ว่าแม้จะดึงก๊าซฯมาใช้ในภาคครัวเรือนก็จะไม่กระทบต่อทั้งการผลิตและต้นทุนของภาคอุตสาหกรรม เพราะสัดส่วนการใช้ก๊าซฯในครัวเรือนมีไม่มากนัก อีกทั้ง กพช. ไม่มีอำนาจในการกำหนดอัตราค่าไฟจึงได้ให้ กกพ.ไปพิจารณาหาแนวทางให้ค่าไฟฟ้าลดลง เนื่องจากทั้ง 3 แนวทางที่ กกพ.เสนอมา อัตราค่าไฟฟ้าค่อนข้างสูง ซึ่งการบริหารจัดการก๊าซฯสามารถทำได้ เพื่อให้ค่าไฟฟ้าถูกลงได้
ส่วนอัตราค่าไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมจะเป็นเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับ กกพ. จะพิจารณาแต่คาดการณ์ว่าจะต้องไม่แตกต่างจากครัวเรือนมากนัก โดยคาดว่า กกพ.จะเร่งสรุปแนวทางการลดภาระค่าไฟฟ้าได้ช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกพ. ได้เปิด 3 ทางเลือก เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 14-27 พฤศจิกายน 2565 งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2566 คาดแตะ 5.37-6.03 บาทต่อหน่วย ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวทางการชดเชยต้นทุนที่แท้จริงเพื่อคืนหนี้ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยภายหลังเปิดรับฟังแล้ว กกพ.จะประกาศอัตราค่าไฟฟ้างวดใหม่ปี 2566 ช่วงเดือนธันวาคมนี้