วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2565) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานเปิดงานสัมมนา "The Future of EV" โดยมี นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เข้าร่วมเสวนา โดยรองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ได้ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งตอบสนองแผนงานด้านพลังงานในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งในด้านความปลอดภัย ยังเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ EV จะต้องให้ความสำคัญ
ปัจจุบัน MEA ได้มีบริการ KEN by MEA ให้บริการติดตั้งระบบไฟฟ้ารองรับ EV Home Charger โดยใน Package ของ KEN by MEA ครอบคลุมการติดตั้งเครื่องตัดวงจรกระแสเกิน เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) Type B ซึ่งเป็นข้อกำหนดสูงสุดตามมาตรฐานการติดตั้ง ขณะเดียวกัน ยังสามารถบริการตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้าภายในบ้านให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและไม่เสื่อมสภาพ มีระบบไฟฟ้าที่เป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย พ.ศ. 2564 และมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับบริภัณฑ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการอัดประจุไฟฟ้าฯ MEA ได้คำนึงถึงความเพียงพอต่อการใช้งาน EV Home Charger
รวมถึงการขยายการใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคตภายในบ้าน ตลอดจนอุปกรณ์ของ MEA ที่มาต่อเชื่อมเพิ่มเติมด้านระบบไฟฟ้า เช่น กล่องต่อสาย ท่อร้อยสายไฟฟ้า อุปกรณ์จับยึดสายต่างๆ เป็นต้น ซึ่ง MEA มีการออกแบบ การพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์ รวมถึงสามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งในกรณีฉุกเฉิน MEA ยังมี Call Center 1130 ตลอด 24 ชั่วโมง รับแจ้งปัญหาการขัดข้องของระบบ EV Charger เพื่อให้ MEA เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ในทันที
“KEN by MEA เป็นบริการติดตั้งระบบไฟฟ้ารองรับ EV Home Charger ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานสูงสุด มีการควบคุมคุณภาพด้วยการตรวจสอบทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการจัดหา จนถึงกระบวนการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับจ่ายไฟให้กับยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยเครื่องมือทดสอบที่ทันสมัย อำนวยความสะดวกผู้รับบริการด้วยการเป็น Contact Point ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้อง ในกรณีลูกค้ามีความจำเป็นต้องเพิ่มขนาดเครื่องวัดฯ/หรือเปลี่ยนประเภทเครื่องวัดฯ (ปกติเป็น TOU) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ลูกค้าได้รับรถ EV” รองผู้ว่าการ MEA กล่าว
สำหรับผู้สนใจติดตั้ง EV Charger สามารถเลือกรับบริการจาก KEN by MEA ได้ 2 Package คือ Package ติดตั้ง EV Charger ขนาด 7.4 kW 1 Phase ราคา 29,000 บาท และ Package ติดตั้ง EV Charger ขนาด 22 kW 3 Phase ราคา 46,000 บาท ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของคุณสมบัติแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่เลือกใช้ โดยทั้ง 2 Package ดังกล่าวยังครอบคลุมการติดตั้งสายเมนที่ 2 สำหรับ EV, อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินหลัก Main CB 40A, อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว RCD Type B 40A และระบบสายดิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
นอกจากนี้ MEA ยังมีบริการทดสอบอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มต่างๆ โดยให้บริการครอบคลุมการทดสอบในห้องปฏิบัติการ (In laboratory test) และการทดสอบ ณ สถานีอัดประจุไฟฟ้า (On site test) เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้าเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้า และ Server ของ MEA มีการจำลองสภาวะแวดล้อมต่างๆ เพื่อดูการทำงานของอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้า ตลอดจนการทดสอบด้านความปลอดภัยหลัก อีกทั้งยังมีบริการตรวจสอบประจำปี เสมือนการตรวจสภาพรถยนต์ ทำให้มั่นใจว่าอุปกรณ์อัดประจุยังมีคุณภาพดี และปลอดภัยต่อผู้ใชังาน
ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่สนใจงานบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเกี่ยวเนื่องของ MEA ดูรายละเอียดบริการ KEN by MEA ได้ที่ https://www.mea.or.th/minisite/ken และสามารถติดต่อ KEN by MEA ได้ผ่านช่องทาง ken@mea.or.th และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ตลอด 24 ชั่วโมง
“ถามมืออาชีพ ถาม KEN”
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสครบรอบ 10 ปี MEA EV ที่ MEA ขับเคลื่อนตามแผนงานด้านพลังงานของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย และพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีโครงการความร่วมมือที่เกิดขึ้น เช่น โครงการมหานครสดใส ชาร์จไฟ กับ MEA ที่พันธมิตรอำนวยความสะดวกให้ MEA ใช้พื้นที่ติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า "MEA EV Station" ตลอดจนความร่วมมือกับค่ายรถยนต์ที่มี Application การค้นหาจุดชาร์จ EV สามารถนำ Location ของ "MEA EV Station" เป็นทางเลือกให้ลูกค้าใช้บริการได้ เป็นต้น สามารถดาวน์โหลด MEA EV Application ได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้ที่ https://onelink.to/meaev นอกจากกลุ่มลูกค้าของ MEA แล้ว ในด้านผู้ประกอบการที่สนใจ ยังสามารถนำเสนอโครงการที่จะสามารถมาช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) ร่วมกัน ในอนาคต MEA อาจมีความร่วมมือในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเปิดให้ผู้ประกอบการสามารถใช้งาน MEA EV platform ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถ EV อย่างครบวงจร สามารถตอบสนองการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ได้รับความปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้งาน