“คมนาคม” ถกคณะทำงานแก้ปัญหาผู้โดยสารขาเข้า “สุวรรณภูมิ” แน่น ตั้ง Single Command Center ปรับกระบวนการตั้งแต่ลงเครื่อง ตรวจหนังสือเดินทาง รับกระเป๋า และจัดบริการขนส่งสาธารณะ จัดแถวคิวตม.ลดเวลารอตรวจหนังสือเดินทางจาก 30 นาที เหลือ 15 นาทีต่อคน
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมคณะทำงานบูรณาการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร กรมการกงสุล เพื่อพิจารณาแนวทางการอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แก้ปัญหาความแออัดผู้โดยสารที่เกิดขึ้น รวมทั้งจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
โดยสืบเนื่องจากที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางทางอากาศของประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการให้บริการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่าการให้บริการบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ส่งผลให้เกิดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในบางช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินจำนวนมาก ประกอบกับเดือนพฤศจิกายนเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าประเทศผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศใช้บริการเฉลี่ยวันละ 43,000 คน อย่างไรก็ตาม ชั่วโมงคับคั่งของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 14.00-17.00 น. ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการสูงถึงกว่า 10,000 คน ส่งผลให้เกิดภาพความแออัดบริเวณด้านหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรอบการปฏิบัติงานของคณะทำงานบูรณาการฯ ทั้งระยะเร่งด่วน (ภายใน 15 วันทำการ) ระยะปานกลาง และระยะยั่งยืน โดยเป็นกรอบการดำเนินการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ในการปฏิบัติงานในกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและกระบวนการผู้โดยสารขาออก โดยตั้งศูนย์ Single Command Center เพื่อติดตามสถานการณ์และกำกับดูแลการบริหารจัดการ Flow ผู้โดยสารในช่วงที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นทุกกระบวนการให้เป็นไปด้วยความคล่องตัวไม่ติดขัด ตั้งแต่จุดตรวจหนังสือเดินทาง จุดรับสัมภาระผู้โดยสาร รวมทั้งกระบวนการทางศุลกากร และระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อท่าอากาศยาน เช่น รถแท็กซี่ และรถโดยสารสาธารณะ ให้เพียงพอต่อจำนวนผู้ใช้บริการและมีความรวดเร็ว เพื่อบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ ทอท. ดำเนินการจัดทำข้อมูลจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารปัจจุบัน เมื่อเทียบกับปี 2562 และปริมาณคาดการณ์ในอนาคต เพื่อบริหารจัดการการให้บริการให้สามารถเพียงพอในการรองรับผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและแก้ไขปัญหาความแออัดที่เกิดขึ้น เพื่อให้การบริการผู้โดยสารในภาพรวมเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และได้เน้นย้ำให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ (Monitor) กระบวนการและขั้นตอนการให้บริการต่างๆ แบบ Real Time เพื่อเห็นภาพรวมการให้บริการ หากพบปัญหาหรือพื้นที่ให้บริการที่หนาแน่นให้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว
รวมทั้งให้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์คลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์บนเครื่องบิน เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้โดยสารทราบว่าขั้นตอนการเดินทางของผู้โดยสารขาเข้ามีขั้นตอนอย่างไร เพื่อลดความคับคั่งของพื้นที่ให้บริการ รวมทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการเดินทางมาท่าอากาศยาน และการให้บริการรถ Shuttle Bus ภายในท่าอากาศยาน โดยลงสื่อสังคมออนไลน์ สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในวงกว้าง
ปัจจุบัน ทอท.ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารทั้งกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก โดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจัดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิบัติหน้าที่เต็มทุกเคาน์เตอร์ทุกโซนในช่วงชั่วโมงที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ปรับรูปแบบการจัดระเบียบการต่อแถว (Queue) ของผู้โดยสารในรูปแบบ Snake Queue เพื่อให้มีความเป็นระเบียบยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารให้ได้รับการบริการตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้สามารถระบายผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่งได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 30 นาที โดยผู้โดยสารใช้เวลาต่อคิวรอตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน