xs
xsm
sm
md
lg

สตม.ยังไม่พบความเคลื่อนไหวบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงช่วงประชุมเอเปค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ในช่วงที่จะมีการประชุมเอเปค เพื่อป้องกันบุคคลที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ ยอมรับว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว จึงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก และเป็นช่วงเดียวกันกับการประชุมเอเปค แต่ยืนยันว่ามีมาตรการตรวจสอบชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอย่างเข้มงวด ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคงของประเทศคู่ขัดแย้งที่ร่วมประชุมเอเปค

สำหรับช่วงที่ผ่านมา สตม. สืบสวน ติดตาม และปฏิเสธคนเข้าเมืองกว่า 2,000 คน ที่มีลักษณะบุคคลต้องห้าม หรือโอเวอร์สเตย์ อยู่เกินกฎหมายกำหนด โดย สตม. ได้ติดตามและมีข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยทั้งหมด หากเกิดเหตุต้องสงสัย สามารถเข้าดำเนินคดี สืบสวน และผลักดันออกนอกประเทศได้ทันทีตามกฎหมาย และหากพบข้อมูลว่าจะมีบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในประเทศคู่ขัดแย้งเดินทางเข้าประเทศ ทาง สตม. ได้ประสานข้อมูลอาชญากรของประเทศนั้นๆ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และสามารถระงับการเดินทางได้ทันที

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีการเผยแพร่ภาพจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ช่วงรุ่งเช้า และช่วงบ่ายตั้งแต่ 14.00 น. จะมีสายการบินและนักท่องเที่ยวเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก จึงทำให้เกิดภาพดังกล่าว การตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีปริมาณนักท่องเที่ยวหนาแน่น สตม.จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำตามเคาน์เตอร์ และจะคลี่คลายนักท่องเที่ยวได้หมดภายในครึ่งชั่วโมง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา สตม.ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ โดยเน้นย้ำเรื่องความมั่นคง การตรวจคัดกรอง ซึ่งมีขั้นตอนในการตรวจสอบหลายขั้นตอน โดยมีมาตรฐาน คือ ใช้เวลาในการตรวจสอบ 45 วินาที ต่อนักท่องเที่ยว 1 คน หากมีบุคคลที่มีปัญหาจะใช้เวลา 1 นาที ถึง 1 นาที 15 วินาที ปัญหาเกิดขึ้นเหมือนกันกับต่างประเทศ และประเทศไทยสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน