“บีซีพีจี” แจงไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิ 640.86 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 2,334 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 31.6 สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท Star Energy Group Holdings Pte Ltd. (SEGHPL) ในไตรมาส 1/2565
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2565 จากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “Nam San 3A” และ “Nam San 3B” ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล (High Season)
หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 640.86 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 684.70ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,692 ล้านบาท จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 3 โครงการ จำนวน 65 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการชิบะ 1 โครงการโคมากาเนะ และโครงการยาบูกิ ซึ่งทยอยรับรู้ผลการดำเนินงานในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีนาคม 2565 และเมษายน 2565 ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่ดีขึ้นจากการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของแผงโซลาร์ รวมถึงการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Project) และการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,334 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 31.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท Star Energy Group Holdings Pte Ltd. (SEGHPL) ในไตรมาส 1/2565