“จุรินทร์” นำคณะผู้บริหารพาณิชย์เดินทางเข้าเยี่ยมโรงงานผลิตจรวดและยานอวกาศ SpaceX ของ “อีลอน มัสก์” เผยบริษัทสนใจลงทุนอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ในพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์เข้าพบผู้บริหารบริษัท SpaceX Mr.Jonathan Hoeffler ,Vice President ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ว่า บริษัท SpaceX เป็นบริษัทผู้ผลิตจรวดและยานอวกาศของสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2545 มีเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการส่งจรวดสำหรับการตั้งอาณานิคมที่ดาวอังคารในอนาคต ซึ่งเป็นบริษัทของนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวแคนาดา ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาและผลิตจรวดขนส่ง 2 แบบ คือ ฟอลคอน 1 และฟอลคอน 9 โดยออกแบบโครงสร้างให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกถึง 15 ครั้ง ทำให้ต้นทุนการขนส่งมีราคาถูกกว่าเดิมถึง 10 เท่า เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศอย่างล้ำหน้า ซึ่งต้นทุนการขนส่งจากเดิม 50,000 ดอลลาร์/กก. เหลือเพียง 6,000 ดอลลาร์/กก.
โดยรองประธานบริษัทได้ให้ข้อมูลถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมหรือ Starlink ของบริษัท SpaceX ซึ่งได้มีการเปิดตัวโครงการในปี 2015 ว่าจะมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ระหว่าง 50-500 MBPS และมี Latency อยู่ที่ประมาณ 20-40 MS และปัจจุบันให้บริการอยู่ในประเทศแถบยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย จำนวน 55 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง Starlink จะทำงานโดยการส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างโลกและดาวเทียม และใช้ดาวเทียมในการเชื่อมต่อทุกทวีปทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยการส่งข้อมูลระหว่างโลกและดาวเทียมจะใช้คลื่นวิทยุ ส่วนการส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมด้วยกันจะใช้เลเซอร์ โดยดาวเทียมของ Starlink จะโคจรอยู่เหนือผิวโลกที่ความสูงเพียง 550 กิโลเมตรเท่านั้นที่ ส่งผลให้มีจุดเด่นในเรื่องของการเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้อย่างดี ซึ่งปัจจุบันได้มีการใช้แล้วในหลายสถานการณ์ที่พบกับอุทกภัย หรือภัยธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสามารถทำได้อย่างรวดเร็วในทุกพื้นที่
ทั้งนี้ ผู้บริหารบริษัทได้นำนายจุรินทร์และคณะชมโรงงานผลิตจรวดและให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ Starlink (อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม) ซึ่งบริษัทสนใจลงทุนให้บริการทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยในอนาคต
“การใช้อินเทอร์เน็ตจากดาวเทียมในรูปแบบนี้ถือว่ามีความล้ำสมัย และสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาเมืองไปสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ การพัฒนาระบบการศึกษาและสาธารณสุขของไทยไปสู่ความทันสมัยได้ รวมทั้งในพื้นที่ห่างไกลของประเทศ” นายจุรินทร์กล่าว