xs
xsm
sm
md
lg

คมนาคมอัปเดตน้ำท่วม ถนน ทล.-ทช. 111 แห่ง ใน 23 จังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คมนาคมเผยโครงข่ายถนน ทล.-ทช.น้ำยังท่วม 111 แห่ง ในพื้นที่ 23 จังหวัด รถผ่านไม่ได้  61 แห่ง ทล.เร่งกู้ 7 สาย น้ำสูง 40-60 ซม. ส่วนรถ บขส. รถไฟ สนามบิน บริการปกติ ไม่มีปัญหา

กระทรวงคมนาคมสรุปรายงานอุทกภัยในเส้นทางโครงข่ายคมนาคม ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ว่า มีโครงข่ายถนนที่ได้รับผลกระทบรวม 100 สายทาง จำนวน 111 แห่ง รถสามารถสัญจรผ่านได้ 50 แห่ง ไม่สามารถผ่านได้ 61 แห่ง โดยสรุปแยกตามประเภทโครงข่าย ได้ดังนี้

ถนนทางหลวง ได้รับผลกระทบ 7 สายทาง จำนวน 7 แห่ง รถสัญจรผ่านได้ 1 แห่ง ไม่สามารถผ่านได้ 6 แห่ง ถนนทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบ 93 สายทาง 104 แห่ง ผ่านได้ 49 แห่ง ไม่สามารถผ่านได้ 55 แห่ง

มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจำนวน 23 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบสูงสุด 3 จังหวัดแรก ได้แก่ ศรีสะเกษ และ พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจังหวัดละ 15 แห่ง รองลงมา อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบ 13 แห่ง


นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีถนนทางหลวงหลายเส้นทางที่มีระดับน้ำลดลงจนกลับสู่สภาวะปกติแล้ว กรมทางหลวงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งรัดดำเนินการกู้เส้นทางในจังหวัดที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการคืนผิวจราจรให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ตามปกติ

สำหรับทางหลวงที่ยังมีน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.กาฬสินธุ์, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 สายทาง 8 แห่ง ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ดังนี้

1. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา-ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 - 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 40-50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565

2. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู-เขื่อนอุบลรัตน์ ช่วง กม.ที่ 39+500 - 42+100 ระดับน้ำ 40-50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565

3. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ-อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 - 419+600 ระดับน้ำ 35-40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี คาดว่าการจราจรผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

4. จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง-บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 - 24+900 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

5. จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ-ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 - 27+500 ระดับน้ำ 40-45 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

6. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา_บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 - 15+950 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

7. จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้-ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 - 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้ 10 พฤศจิกายน 2565


สำหรับการคมนาคม โดยบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสนามบินทั่วประเทศ ไม่มีรายงานการได้รับผลกระทบ

ด้านการเดินเรือ ท่าเทียบเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเดินเรือโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry มีการปรับตารางเวลาการให้บริการตามสถานการณ์ของระดับน้ำ

ทั้งนี้ กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ติดตั้งป้ายเตือน/อำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ประชาชนในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ

ส่วนกรมเจ้าท่า ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 10 จุด พร้อมเจ้าหน้าที่ 50 คน เรือ 11 ลำ และรถยนต์/รถบรรทุก 14 คัน ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย รวมทั้งเฝ้าระวังระดับน้ำ/ปริมาณน้ำไหลผ่านของแหล่งน้ำธรรมชาติ อ่างเก็บน้ำ และเขื่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือและประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับประชาชนในพื้นที่ทราบ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนทราบ รวมทั้งจัดบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ ติดตั้งป้ายเตือน อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ สามารถสอบถามเส้นทาง ข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุอุทกภัย ได้ที่
- ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356
- สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586
- สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
- สายด่วนบริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 เรียก บขส.
- สายด่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690
- สายด่วนกรมเจ้าท่า โทร. 1199








กำลังโหลดความคิดเห็น