xs
xsm
sm
md
lg

ทล.ฟังความเห็นชาวนครปฐม เลือกรูปแบบก่อสร้างถนนแนวใหม่เชื่อม "พุทธมณฑลสาย 4-มอเตอร์เวย์บางใหญ่" 6.5 กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทางหลวงจัดเวทีรับฟังความเห็นชาวนครปฐม วางแนวตัดถนนใหม่ เชื่อมพุทธมณฑลสาย 4 กับมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจนบุรี” ระยะทาง 6.5 กม. ขนาด 6 ช่องจราจร เสนอ 3 ทางเลือกการใช้พื้นที่เขตทาง และรูปแบบทางแยกต่างระดับ เผย เม.ย. 66 จัดสัมมนาครั้งที่ 3 สรุปผลการศึกษา

วันที่ 20 ตุลาคม 2565 กรมทางหลวง (ทล.) ได้จัดการประชุมสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนา (สัมมนา ครั้งที่ 2) โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่เชื่อมโยงถนนพุทธมณฑลสาย 4 กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 ณ ห้องประชุม กนกนภาแกรนด์ The Salaya Leisure park อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Online) ผ่านโปรแกรม Zoom Cloud Meetings โดยมี นางอภิญญา เอี่ยมอำภา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิด เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าผลการศึกษา และสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบทางเลือกที่เหมาะสม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการศึกษาของโครงการ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุม

ที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอแนวคิดการออกแบบลักษณะถนนโครงการ เป็นรูปแบบทางหลวงแนวใหม่ที่เชื่อมโยงพื้นที่ระหว่างในเมืองกับนอกเมือง ที่เน้นรวมการจราจรและกระจายการจราจร และเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่-กาญจนบุรี) ทั้งนี้ยังเป็นถนนที่สามารถเข้า-ออกพื้นที่ได้อย่างสะดวก ซึ่งผลการวิเคราะห์ด้านจราจรและขนส่งเป็นทางหลวงขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ)


โดยแนวเส้นทางโครงการมีจุดเริ่มต้นโครงการตั้งแต่บริเวณปลายถนนพุทธมณฑลสาย 4 (ทางหลวงหมายเลข 3310) ที่เชื่อมต่อกับทางหลวงชนบทหมายเลข นฐ.4006 (แยกหอนาฬิกาศาลายา) จากนั้นแนวเส้นทางมุ่งทิศเหนือผ่านทางรถไฟสายใต้ คลองมหาสวัสดิ์ และคลองนราภิรมย์ จากนั้นแนวเส้นทางจะตัดกับทางหลวงชนบท นบ.1011 โครงการถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์-ศาลายา ทางหลวงชนบท นบ.5014 คลองบางใหญ่ ทางหลวงชนบท นบ.1009 และไปสิ้นสุดที่จุดบรรจบกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี รวมระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร


โดยได้พิจารณากำหนดทางเลือกแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสมทั้งสิ้น 3 ทางเลือก ที่มีจุดเริ่มต้นบนถนนพุทธมณฑลสาย 4 บริเวณทางแยกหอนาฬิกา และจุดสิ้นสุดบรรจบกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 ตำแหน่งเดียวกัน โดยมีความแตกต่างของแต่ละแนวทางเลือก ดังนี้ แนวเส้นทางโครงการ ทางเลือกที่ 1 ใช้พื้นที่เขตทางที่มีการหักแบ่งเป็นทางสาธารณะมากที่สุด และเพื่อให้แนวเส้นทางมีความปลอดภัยในการขับขี่มากที่สุด แนวเส้นทางจึงขนานใกล้กับคลองไผ่ขาดที่เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยมากที่สุด แนวเส้นทางโครงการ

ทางเลือกที่ 2 ใช้พื้นที่เขตทางที่มีการหักแบ่งเป็นทางสาธารณะค่อนข้างมาก และเพื่อให้แนวเส้นทางห่างจากตำแหน่งด่านชั่งน้ำหนักของโครงการถนนนครอินทร์-ศาลายา และลดผลกระทบต่อพื้นที่ที่อยู่อาศัยใกล้กับคลองไผ่ขาด จึงมีการขยับแนวเส้นทางถัดออกมาด้านทิศตะวันตก ทั้งนี้ แนวเส้นทางยังมีความปลอดภัยในการขับขี่มากที่สุดเช่นเดียวกับทางเลือกที่ 1 และแนวเส้นทางโครงการ

ทางเลือกที่ 3 ใช้พื้นที่เขตทางที่มีการหักแบ่งเป็นทางสาธารณะค่อนข้างมาก และเพื่อให้แนวเส้นทางห่างจากตำแหน่งด่านชั่งน้ำหนักของโครงการถนนนครอินทร์-ศาลายา และลดผลกระทบต่อพื้นที่ที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ตลอดแนวเส้นทางให้มากที่สุด จึงมีการขยับแนวเส้นทางจากทางเลือกที่ 2 ถัดออกมาด้านทิศตะวันตก ทำให้แนวเส้นทางมีความปลอดภัยในการขับขี่ด้อยกว่าทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2

จากการศึกษาการคัดเลือกแนวเส้นทางพบว่า แนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งด้านวิศวกรรมและการจราจร ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน และด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ แนวทางเลือกที่ 2


นอกจากนี้ เนื่องจากแนวเส้นทางโครงการฯ ตัดผ่านโครงการทางหลวงที่สำคัญและมีปริมาณจราจรมาก ดังนั้นการเชื่อมต่อแบบทางแยกต่างระดับ (Interchange) จะช่วยให้การจราจรคล่องตัว สะดวกและปลอดภัยต่อผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ ได้พิจารณาความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ รวมไปถึงผลกระทบต่อประชาชน โดยมีตำแหน่งที่จะก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับ 2 จุด ดังนี้

1. จุดเชื่อมกับโครงการถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์-ศาลายา โดยการออกแบบจะให้ความสำคัญต่อทิศทางเลี้ยวขวาที่มีปริมาณจราจรสูง ซึ่งจากผลการคาดการณ์ความต้องการเดินทางในปีอนาคต พบว่าทิศการเดินทางเลี้ยวขวาจากอำเภอพุทธมณฑล มุ่งไปอำเภอเมืองนนทบุรี มีปริมาณจราจรมากที่สุด (977 pcu/ชม.) รองลงมาคือ ทิศการเดินทางจากอำเภอเมืองนนทบุรี มุ่งไปทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 (763 pcu/ชม.)

โดยทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด คือ รูปแบบทางแยกต่างระดับสะพานยกระดับเลี้ยวขวากึ่งตรง (Semi-directional) จำนวน 2 สะพาน คือ 1. ทิศการเดินทางจากอำเภอพุทธมณฑล มุ่งไปอำเภอเมืองนนทบุรี และ 2. ทิศการเดินทางจากอำเภอเมืองนนทบุรีมุ่งไปทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สำหรับทิศทางเลี้ยวขวาที่มีปริมาณจราจรน้อย เป็นรูปแบบสะพานวนเลี้ยวขวา (Loop ramp) มี 2 ทิศการเดินทาง คือ 1. ทิศการเดินทางจากอำเภอนครชัยศรีไปอำเภอพุทธมณฑล และ 2. ทิศการเดินทางจากทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 มุ่งไปอำเภอนครชัยศรี ซึ่งข้อเด่นของทางเลือกนี้ คือ มีการสัญจรโดยใช้ความเร็วได้สูงในทิศการเดินทางที่มีปริมาณจราจรมาก


2. รูปแบบทางแยกต่างระดับจุดเชื่อมกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 โดยทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด คือ รูปแบบถนนขนานยกระดับต่อเชื่อม (Offset Interchange หรือ Separate Link) ที่มีทางแยกควบคุมด้วยสัญญาณไฟจราจรบนถนนโครงการทางหลวงแนวใหม่ฯ ก่อนที่จะเข้าเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 จากนั้นจะเป็นรูปแบบทางแยกต่างระดับรูปแตรฝรั่ง (Trumpet) มีรูปแบบสะพานยกระดับต่อเชื่อมแบบกึ่งตรง (Semi-directional) ในทิศการเดินทางจากโครงการทางหลวงแนวใหม่ฯ มุ่งไปอำเภอบางใหญ่ เป็นรูปแบบสะพานยกระดับต่อเชื่อมแบบทางเลี้ยววน (Loop) ในทิศการเดินทางจากจังหวัดกาญจนบุรีมุ่งสู่โครงการทางหลวงแนวใหม่ฯ

และเป็นรูปแบบสะพานยกระดับเลี้ยวซ้ายสองทิศการเดินทาง คือ 1. ในทิศการเดินทางจากโครงการทางหลวงแนวใหม่ฯ มุ่งไปจังหวัดกาญจนบุรี และ 2. ในทิศการเดินทางจากอำเภอบางใหญ่เข้าสู่โครงการทางหลวงแนวใหม่ฯ ซึ่งข้อเด่นของรูปแบบนี้ คือ ง่ายต่อการต่อขยายแนวเส้นทางในอนาคต และการจัดการจราจรบริเวณหน้าด่านจัดเก็บค่าผ่านทางได้ดีที่สุด และสามารถต่อเชื่อมทางบริการในปัจจุบันที่อยู่ข้างทางหลวงพิเศษเพื่อเข้าออกพื้นที่ได้อย่างสะดวก


หลังจากนี้กรมทางหลวงจะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาของโครงการ พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง โดยมีกำหนดจัดการประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 3) ในช่วงประมาณเดือนเมษายน 2566 เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาในทุกด้านให้ประชาชนได้รับทราบรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงานต่อไป โดยผู้สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดของโครงการฯ ได้ 2 ช่องทาง ได้แก่

1. เว็บไซต์ www.phuttamonthonsai4-m81.com
2. แฟนเพจเฟซบุ๊ก : www.facebook.com/putthamonthonsai4m81


กำลังโหลดความคิดเห็น