การตลาด - “มาดามลิซ่า” กางแผน 5 ปี อัด 2,000 ล้านสร้างอาณาจักร “อจินไตย” ลุยสุขภาพความงามควบคู่ไปกับบันเทิง ปักธงรายได้ 5,000 ล้านบาทในปี 2570 ล่าสุดปลายปีนี้พร้อมเปิดม่าน "Ajintai Wellness Clinic & Spa" ต้นแบบศูนย์สุขภาพและความงามแห่งแรก ปูพรมสู่ 25 สาขาทั้งในและต่างประเทศ ส่วนบันเทิง ปลายเดือน ต.ค. พร้อมเปิดตัวบอยแบนด์ Z22 และซีรีส์ “แปลกใจนักแอบรักเธอ” ออนแอร์ทางช่องเวิร์คพ้อยท์ ชิมลางรายได้ปีนี้ 300 ล้านบาท ส่วนปีหน้าขยับเป็น 1,000 ล้านบาท และโตปีละ 20% ต่อเนื่อง สู่ปี 2570 ปักธง 5,000 ล้านบาท
นางสาวภิญญาพัชร์ ธีรพิริยากรณ์ หรือ “มาดามลิซ่า” ประธานกรรมการ บริษัท อจินไตย ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า อจินไตยดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพความงามมากว่า 9 ปี ล่าสุดปี 2565 นี้พร้อมรีแบรนด์และการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อขยายธุรกิจและสร้างการรับรู้ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศให้มากที่สุด โดยจะโฟกัส 2 ธุรกิจหลักทำควบคู่ไปด้วยกัน คือ 1. สุขภาพและความงาม และ 2. เอนเตอร์เทนเมนต์
เพราะมองว่า 2 ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน เอื้อประประโยชน์ให้กันและกัน จากที่ผ่านมาได้เข้าไปคลุกคลีในสายการประกวดนางงาม อย่าง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หรือการค้นหาบอยแบนด์ ซึ่งการจะสร้างนางงามหรือศิลปินขึ้นมาต้องมีการเลือกใช้คลินิกความงาม หรือผลิตภัณฑ์ความงาม มาช่วยในเรื่องของการดูแลภาพลักษณ์ รูปร่างหน้าตาของคนกลุ่มนี้ ดังนั้นจึงพร้อมลุยใน 2 ธุรกิจนี้ไปด้วยกัน
“เดิมเรามีเปิดคลินิก EVA By LIZA (อีว่า บาย ลิซ่า) 1 สาขา ปีนี้รีแบรนด์เป็น "Ajintai Wellness Clinic & Spa" ย้ายจาก The Walk เกษตร-นวมินทร์ มาที่ทาวน์อินทาวน์ ส่วนธุรกิจบันเทิงได้ทำมาเป็นปีที่ 4 แล้ว เริ่มจากการปั้นบอยแบนด์วง U.LIT และผลิตซีรีส์ เรื่อง วุ่นรักนักบิด ออกฉายทางไลน์ทีวี เมื่อช่วงปี 63 ก่อนที่ไลน์ทีวีจะปิดตัวลง จากนั้นติดโควิด ธุรกิจบันเทิงเลยเงียบไป แต่มองเป็นช่วงกลับมาทบทวน และวางแผนธุรกิจใหม่ รวมถึงดูแลพัฒนาศิลปินดาราในสังกัด”
การรีแบรนด์และมุ่งเน้น 2 ธุรกิจในครั้งนี้ กลุ่มบันเทิงจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจสุขภาพความงามเป็นที่รู้จักได้ดียิ่งขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจบันเทิงจะช่วยลดต้นทุนด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์และการตลาดให้แบรนด์ อจินไตย รวมถึงศูนย์ "Ajintai Wellness Clinic & Spa" ให้เป็นที่รู้จัก จากการที่ศิลปินก็ใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของอจินไตยนั่นเอง
มาดามลิซ่ากล่าวต่อว่า สำหรับแผนการสร้างอาณาจักร “อจินไตย ไทยแลนด์” ในครั้งนี้ ตั้งเป้า 5 ปี นับจากปี 66-70 จะต้องใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ล้านบาทสำหรับลงทุนใน 2 ธุรกิจ โดยหลักๆราว 40-50% จะใช้ในส่วนสุขภาพและความงาม 30% บันเทิง และอื่นๆ อีก 30% โดยในช่วงปีแรกนี้บริษัทใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท แบ่งเป็น คลินิก 40% บันเทิง 30% และอื่นๆ 30% ส่วนในปี 66 นั้นน่าจะใช้งบเพิ่มขึ้นอีก หรือน่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท
เริ่มจากกลุ่มธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงาม เบื้องต้นได้เปิดให้บริการศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร "Ajintai Wellness Clinic & Spa" (อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา) สาขาแรกไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ทาวน์อินทาวน์ ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 20 ล้านบาท นำร่องเป็นโมเดลต้นแบบก่อน ซึ่งตามแผนใน 5 ปีต้องการขยายให้ได้ 25 สาขาทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบลงทุนเอง ร่วมทุน และขายแฟรนไชส์ ในทุกขนาดทั้งขนาดเล็กประมาณ 500 ตร.ม. ลงทุน 5 ล้านบาท, ขนาดกลาง 800-1,000 ตร.ม. ลงทุน 10 ล้านบาท และขนาดใหญ่ 1,500 ตร.ม. ลงทุน 20 ล้านบาท
“การขยายสาขาจะเน้นขายแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งอยากได้สัดส่วน 50% เท่าๆ กันทั้งในและต่างประเทศ โดยในไทยนั้นจะเน้นหัวเมืองใหญ่ หรือในกรุงเทพฯ ทั้ง 4 มุมเมือง หากยังไม่ขายแฟรนไชส์แต่เป็นทำเลที่ดีก็จะลงทุนขยายเอง แต่หากขายแฟรนไชส์แล้วก็จะไม่ลงทุนทำทับซ้อนกัน หรือหากมีการขายแฟรนไชส์ไปแล้วแต่ลูกค้าต้องการแค่บางส่วน ที่เหลือตนก็จะเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมเพื่อต้องการเปิดให้ครบวงจรต่อไป”
ส่วนของการขยายสาขาในต่างประเทศนั้น ในวันที่ 29 ต.ค.นี้จะเปิดสาขาแรกที่ สปป.ลาว 1 แห่ง จากนั้นจะเริ่มเปิดได้ใน จีน กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ดูไบ และสหรัฐอเมริกา ต่อไป สู่การสร้างแบรนด์ ”อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา” สัญชาติไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงในตลาดโลกด้วย
ในเฟส 2 หรือในปี 2566 บริษัทมีแผนขยายธุรกิจบ้านพักคนชรา ทำเลที่มองไว้คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหัวหิน โครงการละ 40-50 ยูนิต เป็นลักชัวรีโมเดล คาดว่าจะใช้งบไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อโครงการ และยังมีแผนทำโรงพยาบาลความสวยความงามในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศเพื่อเสริมทัพของกลุ่มธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจรเพื่อรองรับลูกค้าด้วย
เนื่องจากพบว่าปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในเรื่องของศัลยกรรมและความงามของคนทั่วโลก รวมถึงพบว่าผู้สูงอายุทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมีเพิ่มขึ้น และมีความต้องการบ้านพักคนชราที่มีบริการครบครันระดับ 5-6 ดาวมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสินค้าเฮาส์แบรนด์ ในกลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่สครับผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ภายใต้แบรนด์ "Ajintai" เพื่อวางขายในช่องทางค้าปลีกต่างๆ รวมถึงในช่องทางขายออนไลน์ทุก
แพลตฟอร์ม เช่น Shopee, Lazada และขายผ่าน "Ajintai Welness Cinic & Spa" ด้วย เพื่อให้สินค้าเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังได้รับทำการตลาดให้กับแบรนด์สินค้าเพื่อความงามอื่นๆ ด้วย เช่น AOTURA SERUM ของทาง MUT หรือ เวทีกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เป็นต้น
นางสาวภิญญาพัชร์กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในกลุ่มบันเทิงต่อว่า ในส่วนของธุรกิจบันเทิงหรือเอนเตอร์เทนเมนต์นั้น มีแผนผลิตละคร ซีรีส์ และผลิตศิลปิน Boyband Girlgroup ออกสู่ตลาด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะเชื่อว่ายังเป็นธุรกิจที่มาแรง แม้การแข่งขันจะดุเดือดก็ตาม โดยในวันที่ 29 ต.ค.นี้จะมีแถลงเปิดตัวซีรีส์เรื่อง "แปลกใจนักแอบรักเธอ" ที่ได้ร่วมทุนกับทางญี่ปุ่นถ่ายทำที่เมืองคิตะคิวชูเป็นหลัก นำแสดงโดย พลอยภัช-ภัชธร ธนวัฒน์, โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์, ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล เริ่มออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ในวันอาทิตย์ที่ 30 ต.ค.นี้ หลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไป รวม 12 Ep ซึ่งเป็นการซื้อแอร์ไทม์ในการออกอากาศ
ส่วนแผนในปี 2566 นั้นยังมีอีกหลายโปรเจกต์ที่จะทยอยออกมา เช่น 1. การเปิดตัวบอยแบนด์ในชื่อวง Z22 มีสมาชิก 4 คน และ 2. เรียลิตี ค้นหานักแสดงเพื่อร่วมแสดงในซีรีส์วายที่จะเป็นอีก 1 โปรเจกต์โดยจะเริ่มถ่ายทำกลางปีหน้า และจะลงฉายทางแพลตฟอร์ม OTT ต่อไป ซึ่งในปีหน้ามีแผนผลิตซีรีส์อย่างน้อย 3 เรื่อง ส่วนปลายปี 2566 จะเริ่มโปรเจกต์ทำหนัง ซึ่งจะทำร่วมกับพีท ทองเจือ อีกส่วนหนึ่งด้วย
ปัจจุบันบริษัทมีศิลปิน ดารา นักแสดงในสังกัดประมาณกว่า 20 คน ซึ่งเป้าหมายของอจินไตยต้องการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทยที่มีความสามารถและอยากเป็นศิลปินเข้ามาร่วมเป็นครอบครัวอจินไตยเพิ่มขึ้น รวมถึงผลักดันให้อจินไตยทั้งในกลุ่มธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร และธุรกิจบันเทิง ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของเมืองไทยภายใน 3 ปี
ในส่วนของรายได้นั้น คาดว่าสิ้นปี 2565 นี้จะทำได้ 300 ล้านบาท มาจากธุรกิจสุขภาพและความงาม 40% บันเทิง 30% และอื่นๆ 30% ส่วนในปี 2566 ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 20% ต่อเนื่องทุกปี โดยตามแผน 5 ปีนั้นเชื่อว่าภายในปี 2570 อจินไตยจะมีรายได้ถึง 5,000 ล้านบาทได้