กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบสต๊อกปุ๋ยเคมี 2 บริษัทใหญ่ที่พระนครศรีอยุธยา พบปริมาณเต็มโกดัง และราคายังปรับลดลงต่อเนื่อง เผยยูเรียลงแล้ว 18-20% แอมโมเนียมซัลเฟตลง 25% เตรียมเจรจาจีนเชื่อมโยงการซื้อปุ๋ยเพื่อช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรต่อ ล่าสุดสต๊อกปุ๋ยในประเทศขยับเพิ่มเป็น 1.4 ล้านตันแล้ว เพิ่มขึ้น 56%
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจโรงงานของผู้นำเข้าและผู้ผลิตปุ๋ยเคมีรายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ บริษัท เทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด และบริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับนางกาญจนา ชมมี พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำรวจสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมีในเขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ร่วมกับนายวีระพงศ์ สืบค้า พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี ว่า จากการตรวจสอบพบปริมาณสต๊อกปุ๋ยเคมี ทั้งสูตรหลักและสูตรทางเลือก มีเต็มโกดัง รวมทั้ง 2 แห่งกว่า 1 แสนตัน หรือกว่า 2 ล้านกระสอบ สามารถผลิตและจำหน่ายได้ถึงต้นปีหน้า ส่วนราคาได้มีการปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่ผ่านมา ขณะที่สถานการณ์การจำหน่ายก็เป็นปกติ มีปริมาณปุ๋ยในท้องตลาดเพียงพอ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาระหว่างผู้ผลิตกับผู้จำหน่าย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลกที่ปรับลดลงขณะนี้ ทำให้ราคาปุ๋ยเคมีในประเทศได้ปรับลดลง เช่น ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ซึ่งเป็นสูตรที่ใช้กันมากที่สุด ราคาได้ปรับลดลงมาประมาณ 18-20% และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ซึ่งนิยมใช้ในการปลูกปาล์มน้ำมัน ราคาได้ปรับลดลงมาประมาณ 25%
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการติดตามสถานการณ์ปุ๋ยเคมี กรมฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรไปแล้ว โดยขอให้สมาคมร่วมสอดส่องดูแลและกำชับไปยังตัวแทนจำหน่ายให้ขายปุ๋ยเคมีในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน ห้ามฉวยโอกาสขายแพงเกินสมควร โดยหากพบการฉวยโอกาสจะถูกเพิกถอนหรือระงับการเป็นตัวแทนจำหน่าย
ส่วนกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่และร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้มีการสำรวจราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีและแจ้งมายังกรมฯ เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย จำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะมีการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ กรมฯ จะมีการเจรจากับประเทศที่เป็นแหล่งผลิตปุ๋ยเคมีต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงการซื้อปุ๋ยเพิ่มเติมอีก เช่น จีน ที่คาดว่าจะเปิดประเทศมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง เพื่อช่วยลดต้นทุนปุ๋ยเคมีให้แก่เกษตรกรต่อไป และล่าสุดปริมาณสต๊อกปุ๋ยทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้น จากประมาณ 9 แสนตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2565 เป็น 1.4 ล้านตันในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 56%