xs
xsm
sm
md
lg

“ไลน์แมน วงใน” ทะยาน 3.7 หมื่นล. สู่ National Champion

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด – เปิดใจ “ยอด ชินสุภัคกุล” หัวเรือใหญ่ “LINE MAN Wongnai” (ไลน์แมน วงใน) หลังระดมทุนซีรีส์ บี จำนวน265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ9,700 ล้านบาท) สำเร็จ ถึงที่มาที่ไป แนวคิด ทิศทางจากนี้ หลังจากทะยานสู่เทคสตาร์ตอัปที่ใหญ่ที่สุดของไทยในแง่มูลค่าบริษัท 

ถือเป็นก้าวที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของ “LINE MAN Wongnai” (ไลน์แมน วงใน) ที่ก่อตั้งในปี 2563 จากการควบรวมระหว่างแพลตฟอร์มออนดีมานด์ LINE MAN และแพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหาร Wongnai โดยมีเป้าหมายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านบริการ (E-commerce Platform for Services) ที่มีนวัตกรรมมากที่สุด
 
ที่เพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ประสบกับความสำเร็จกับการระดมทุนครั้งใหญ่ ระดับซีรีส์ บี จำนวน 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ9,700 ล้านบาท) ที่่นำโดยGIC และ LINE Corporationซึ่ง GIC หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์นี้เป็นบริษัทลงทุนชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ และมีการลงทุนมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
 
ขณะเดียวกันการระดมทุนในรอบนี้ยังมี BRV Capital Management, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR), Bualuang Ventures และ Taiwan Mobile ร่วมลงทุนด้วย


ภายหลังจากการระดมทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาท) ขึ้นเป็นเทคสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดของไทยเมื่อวัดจากมูลค่าบริษัท
 
นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญของLINE MAN Wongnai ที่จะเป็น National Champion ในอุตสาหกรรมส่งอาหารของประเทศไทย อาหารถือเป็นรากเหง้าของเรามาตั้งแต่เมื่อร่วมก่อตั้ง Wongnai และตอนนี้พวกเราบรรลุความฝันในการเชื่อมต่อลูกค้าหลายล้านคนกับร้านอาหารจำนวนมาก เรายังภูมิใจที่สามารถสร้างงานให้กับไรเดอร์มากกว่า 1 แสนตำแหน่งทั่วประเทศ โดยไรเดอร์จำนวนมากมีรายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 2 เท่า เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยไปข้างหน้า ด้วยการพัฒนาบริการที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนไทย เพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น”

อึนจอง ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “LINE MAN ถือเป็นหนึ่งในบริการที่ประสบความสำเร็จที่สุด แสดงให้เห็นว่า LINE สามารถสร้างบริการที่เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละประเทศได้ การระดมทุนรอบนี้จะช่วยให้ LINE MAN Wongnai มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคตเพื่อเป้าหมายในการสร้างชีวิตที่ดีกว่าและสะดวกกว่าให้กับผู้ใช้ชาวไทย”

การเคลื่อนทัพครั้งใหญ่ครั้งนี้ จึงน่าสนใจไม่น้อย กับ ที่มาที่ไป และแนวคิดรวมทั้งเป้าหมายการระดมทุนครั้งนี้เพื่ออะไร ผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “ยอด ชินสุภัคกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กับแต่ละประเด็นที่ชัดเจนดังนี้


- ทำไม GIC ถึงมาลงทุน
ธุรกิจเทค หรือสตาร์ทอัพในช่วงแรกอาจจะไม่ทำกำไร แต่การที่นักลงทุนอย่าง GIC กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ ที่ถือเป็นกองทุนระดับโลกและมีขนาดใหญ่มาก และนักลงทุนรายอื่นๆ เข้ามาลงทุนก็สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจของเรามีความชัดเจน น่าเชื่อถือ ตอนนี้ยังบอกกำหนดที่แน่ชัดไม่ได้ว่าจะสามารถทำกำไรได้เมื่อไหร่ แต่แนวโน้มมีการขาดทุนน้อยลงขึ้นเรื่อยๆ จากการบริหารต้นทุนที่ดีและมีผลการดำเนินงานที่เติบโตดีขึ้นเรื่อยๆ
GIC เป็นกองทุนที่ใหญ่กว่ากองทุน Temasek ของสิงคโปร์ ส่วน Taiwan Mobile ที่เข้ามาลงทุนรอบนี้ก็ไม่ได้ให้โจทย์อะไรมาเป็นพิเศษ และเรายังไม่มีโปรเจกต์ที่จะขยายการลงทุนในไต้หวัน ​ส่วน OR เป็นบริษัทที่มีการลงทุนในบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ที่ผ่านมา LINE MAN Wongnai มีการทำธุรกิจร่วมกับ OR อยู่แล้ว และสิ่งที่ OR จะเข้ามาช่วยสนับสนุนได้คือ Know-how ในการเข้าตลาดหุ้นเพราะมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว

- สิ่งที่ได้รับและความคาดหวังของนักลงทุน
นักลงทุนส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนเชิงการเงินเพียงอย่างเดียว (Financial Investor) จึงไม่มีความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกัน แต่เป็นการให้คำแนะนำเรื่องการลงทุนและการเงิน ซึ่งการที่นักลงทุนมืออาชีพในระดับโลก และมีมาตรฐานสูงเข้ามาร่วมลงทุนเป็นเรื่องที่น่ายินดี

- นักลงทุนมองเห็นอะไรในบริษัท และจุดที่ทำให้ระดมทุนได้สำเร็จ
จุดเด่นของบริษัทมีหลายด้าน คือ
• LINE MAN กับ Wongnai มี Synergy ที่แข็งแกร่ง รวมถึงทีมงานที่พร้อมผลักดันธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมี Wongnal POS ที่มีร้านอาหารใช้บริการมากที่สุดและเชื่อมต่อกับบริการ Food Delivery ของ LINE MAN
• LINE MAN Wongnai และ LINE ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดย LINE ได้ให้สนุนด้านเทคโนโลยีและการเข้าถึงผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทยจำนวน 50 ล้านคน เพื่อร่วมมือสร้างมูลค่าให้เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน LINE เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของ LINE MAN Wongnai
• ข้อพิสูจน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา LINE MAN Wongnai โตเร็วที่สุดและมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน


- ความแตกต่างของการระดมทุนรอบนี้และที่ผ่านมา
การระดมทุนครั้งที่แล้วอาจเป็นการขาย Vision แต่ครั้งนี้เป็นการขาย Execution เพราะเราทำให้นักลงทุนเห็นแล้วว่าสองปีที่ผ่านมาได้ทำอะไรมาบ้าง ครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นข้อพิสูจน์ว่าได้ทำอะไรไปเรียบร้อยแล้ว

- ทำไมเลือกระดมทุนในช่วงเวลานี้
เราไม่สามารถเลือกช่วงเวลาได้ แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากของการระดมทุน เพราะตลาดเป็นช่วงขาลง ซึ่งมีการหารือกับนักลงทุนเป็นเวลาหลายเดือนจนสามารถระดมทุนได้ถือเป็นความภาคภูมิใจ ถ้าหากได้ระดมทุนในช่วงตลาดขาขึ้น ก็น่าจะดีและง่ายมากกว่านี้

- การระดมทุนในครั้งต่อไป
การระดมทุนในรอบนี้ทำให้บริษัทได้เงินทุนมาพอสมควร เพราะฉะนั้นในช่วงระยะสั้นทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการทำธุรกิจแล้ว ในรอบต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่ามีโอกาสใดเกิดขึ้นในตลาดอีกบ้าง


- ทิศทางหลังจากได้รับเงินระดมทุนรอบใหม่
LINE MAN Wongnai ได้วางเป้าหมายที่สำคัญใน 3 ด้านหลังระดมทุนคือ
• เสริมสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะทีมงานด้าน Technology ได้แก่ Engineer, Product Manager และ UX/UI เพื่อร่วมสร้างเทคโนโลยีให้ทัดเทียมกับในโลก
• การเพิ่มบริการและนวัตกรรมใหม่ออกมาต่อเนื่อง LINE MAN Wongnai รองรับตลาด Food Delivery ที่มีการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 15 เท่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสัดส่วนการให้บริการจะเป็น Food Delivery มากที่สุด 80% โดยในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาได้ขยายบริการ LINE MAN Mart สำหรับบริการรองรับการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ที่มีพันธมิตรร้านค้าร่วมมือแล้วกว่าหลาย 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
• การขยายกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ จากในปัจจุบันมีจำนวน 10 ล้านคน และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องทุกปี

- ความสำเร็จในการก้าวสู่การเป็น Unicorn
การเป็น Unicorn ไม่ใช่จุดสูงสุดของความสำเร็จ แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็น Milestone ที่สำคัญของบริษัท โดยเราจะเดินหน้าและขยายบริการในอีกหลายด้านเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกครั้งใหญ่ให้กับประเทศ รวมถึงสร้างโอกาสในการจ้างงาน แต่เป้าหมายที่อยากให้คนไทยจดจำคือการเป็น National Champion ในธุรกิจส่งอาหาร (Food Delivery )

- เป้าหมายต้องการเข้าตลาดหุ้น ต้องการเข้าตลาด SET หรือ ตลาด MAI
มีเป้าหมายหลักที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ว่าตอนนี้ยังไม่กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน ต้องดูปัจจัยภายในและภายนอก แต่ตอนนี้ผลการดำเนินงานดีขึ้นเรื่อยๆ Profitability ดีขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายใหญ่อยากเป็น SET50 และเป็นบริษัทเทคที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย น่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี และอยากสร้างบริษัทเทคที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่สตาร์ทอัพของไทย โดยการระดมทุนครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ใช้คำว่า “บริษัทสตาร์ทอัพ” ซึ่งเหตุผลที่เลือกที่จะ IPO ในประเทศไทย เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตลาดไทยและมองโอกาสที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ประเทศและสังคมไทย โดยตนเองจะถือหุ้นในบริษัทต่อไป ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นรายบุคคลที่มีสัดส่วนหุ้นมากที่สุด และไม่มีแผนที่จะขายออกมา


- การวางเป้าหมายระยะยาวของ LINE MAN Wongnai
การที่บริษัทได้ก้าวสู่การเป็นยูนิคอร์น มาจากการได้รับแรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ทำให้ประเทศไทยมีบริษัทเทคโนโลยีที่แสดงถึงความภาคภูมิใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทุกคน ในอนาคตได้วางเป้าหมายสู่การเป็น Decacorn หมายถึงธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

- LINE MAN Wongnai ยังถือเป็นบริษัทไทยหรือไม่
แม้ว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามา แต่ LINE MAN Wongnai ก็ยังเป็นบริษัทที่ก่อตั้งในประเทศไทย และมีสำนักงานใหญ่ในไทยทำให้สามารถทำงาน ตัดสินใจ และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีพนักงานในองค์กรรวมกว่า 1,000 คน โดยเป็นคนไทยมากกว่า 99% และพนักงานในกลุ่มที่หายากจะเป็น Engineer ถือเป็นกลุ่มมนุษย์ทองคำ จึงถือเป็น Mission ที่มีความท้าทายในการหาทีมงาน โดยที่ผ่านมามีการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมและบริการต่างๆ จากทีมงานคนไทยทั้งหมด

- ธุรกิจที่ทำรายได้โดดเด่น
ในฐานะ CEO มองว่า ทุกธุรกิจมีความสำคัญและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยบริการ Food Delivery เป็นส่วนที่สร้างรายได้สูงราว 80% รวมถึงธุรกิจ POS และธุรกิจบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มก็ยังคงสร้างผลกำไรให้บริษัทเช่นกัน

- Wongnai POS และ Food Delivery อะไรที่เซ็กซี่มากกว่ากัน
ทั้ง 2 ธุรกิจมีความเซ็กซี่ในตัวเอง ไม่สามารถทิ้งอะไรได้เลย ซึ่ง Wongnai POS เป็นธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่าและมีรายได้มาจากซอฟท์แวร์รายเดือน


- บริการใหม่ที่เกี่ยวกับ Financial
บริการด้านการเงินตอนนี้เริ่มจากให้ไรเดอร์ผ่อนโทรศัพท์มือถือบริษัท ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดี ในอนาคตเรามีแผนที่จะปล่อยกู้ให้ร้านอาหารด้วยเช่นกัน

- หลังสถานการณ์โควิด ตลาดและเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันมีทั้งบริษัทที่ได้รับผลดีและบริษัทได้รับผลกระทบ รวมถึงมีร้านค้าที่สร้างยอดขายสูง และที่ผ่านมาร้านอาหารมีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน เนื่องจากต้นทุนต่างๆ แต่ในภาพรวมลูกค้าก็ยังใช้บริการ Food delivery อย่างต่อเนื่องและกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แม้ว่าตอนนี้กลับมาเปิดประเทศแล้ว พบว่าการเติบโตของธุรกิจยังมีต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เติบโตเร็วกับช่วงโควิด-19

- ร้านอาหารได้รับผลกระทบโควิด ในปัจจุบันกลับมาปกติหรือยัง
ตอนนี้ร้านอาหารกลับสู่ภาวะปกติแล้วมากกว่า 90% บรรยากาศการใช้จ่ายดีขึ้น คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ โดยเฉพาะการขายหน้าร้าน แต่ถึงแม้คนจะกลับไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ธุรกิจ Food Delivery ยังคงได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมคุ้นชินกับความสะดวกสบายในการสั่งอาหารออนไลน์ไปแล้ว

- มองตลาด Food delivery เป็นอย่างไร และถือเป็นตลาด Red ocean
ตลาด Food Delivery ในช่วงที่ผ่านมามีการแข่งขันสูง เหตุผลที่ทำให้ตลาดแข่งขันสูงเพราะเป็นตลาดที่ค่อนข้างดี ถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีผู้ใช้บริการจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าในปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจโดยรวมอาจไม่ดีนัก แต่ Food delivery ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เพราะทุกคนยังต้องการบริโภคอยู่ แสดงถึงโอกาสและศักยภาพของบริษัทในการขยายธุรกิจ โดยการแข่งขันในตลาดปีนี้จะเห็นได้ว่าผู้เล่นในตลาดทุกรายเริ่มมีเหตุมีผลมากขึ้น จากปีที่แล้วที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง สำหรับ LINE MAN Wongnai จะเดินเกมตามตลาด ถ้ามีการแข่งขันเข้มข้นเราก็ต้องเข้มข้นตาม โดยจุดเด่นของ LINE MAN Wongnai ที่ทำให้เติบโตในตลาดได้ต่อเนื่องคือการมีตัวเลือกร้านอาหารและร้านค้าจำนวนมากที่สุด และมีโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจลูกค้า ในปี2565นี้มีผู้เล่นในตลาดจำนวนมาก แต่เชื่อว่าในปีหน้าอาจจะมีผู้เล่นหายไปจากตลาดบ้าง


- ถอดบทเรียนการเติบโต
จุดแข็งของ LINE MAN Wongnai คือการปรับตัวตลอดเวลาและรวดเร็วทำให้สามารถสร้างการเติบโตได้ดี โดยนอกจากการมีทีมงาน Engineer คนไทยที่สามารถพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์คนไทยได้รวดเร็วแล้ว ยังมีทีมงานต่างชาติเข้ามาช่วยทำให้สามารถขยายการเติบโตได้มากขึ้น

- ช่วงเวลาไหนคือ ช่วงเวลาที่ยากสุดในการทำธุรกิจ
ช่วงเวลาที่ยากที่สุดคือตอนเริ่มต้นทำ Wongnai เพราะไม่มีเงินทุน เริ่มจากเงินส่วนตัว และติดลบไปหลายล้านบาท ไม่มีลูกค้า แต่ในปัจจุบันมีทีมงานเก่งๆ เข้ามาช่วยเยอะ รวมถึงยังมีนักลงทุนที่คอยให้คำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจ

- ช่วงเวลาที่ผ่านมา ปีไหนที่ขยายทีมงานมากสุด
ช่วงปีพ.ศ.2563-2564 หลังควบรวมกิจการ มีการขยายทีมงานประมาณ 2-3 เท่า ช่วงนี้ก็ยังคงรับทีมงานเพิ่มเติม โดยจะเลือกรับตำแหน่งเท่าที่จำเป็นเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีนัก

- เรื่องการดูแลไรเดอร์
การบริหารจัดการไรเดอร์ถือเป็นเสาหลักที่สำคัญของธุรกิจ ตอนนี้เรามีไรเดอร์มากกว่าแสนรายทั่วประเทศ มองว่า 99% มีมาตรฐานที่ดี ส่วนอีก 1% ก็ต้องได้รับการพัฒนา ทั้งเรื่องมารยาทการขับขี่ ประกัน ฯลฯ ซึ่งเรามีทีมบริหารดูแลไรเดอร์โดยตรงอยู่แล้ว


- สถานการณ์ตลาดในปัจจุบันที่มีบริษัทเทคโนโลยีบางรายมีปัญหา
บริษัทได้วางแผนทางการเงินองค์กรมาเป็นอย่างดีโดยตลอด (Run a tight ship from the beginning) มีการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ธุรกิจยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน

- นโยบายของภาครัฐต่อการทำธุรกิจ เทคสตาร์ทอัพ
มีเหตุที่ทำให้เทคสตาร์ทอัพในไทยรวมถึงในหลายๆ ประเทศ ไปจดทะเบียนธุรกิจในต่างประเทศที่มีนโยบายหรือกฎระเบียบที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมั่นใจ แต่ที่ผ่านมาในประเทศไทยก็เริ่มมีการปลดล็อกกฎระเบียบบางอย่างและเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องในการสนับสนุนเทคสตาร์ทอัพไทยมากขึ้น อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป


เปิด 3 ธุรกิจหลัก พร้อมขยาย

ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai มีธุรกิจในเครือ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. กลุ่มบริการออนดีมานด์ – บริการภายใต้แบรนด์ LINE MAN ครอบคลุมการส่งอาหาร สินค้า เมสเซนเจอร์ และแท็กซี่ โดยธุรกิจส่งอาหารมีอัตราการเติบโตของจำนวนออร์เดอร์ต่อเดือนมากกว่า 15 เท่าระหว่างมกราคมปี 63 ถึงสิงหาคมปี 65 ขณะที่ตลาดรวมเติบโตแค่ 4 เท่า ถือเป็นบริการส่งอาหารที่เติบโตเร็วที่สุดในไทย

ปัจจุบัน LINE MAN ให้บริการครอบคลุมพื้นที่รวม 246 อำเภอ รวม77 จังหวัดทั่วไทย และมีร้านอาหารบนแพลตฟอร์มกว่า 700,000 ร้าน ซึ่งมากที่สุดในท้องตลาดและบริการไลน์แมนมาร์ท รวม 96 อำเภอ รวม 9 จังหวัด

2. กลุ่มโซลูชันสำหรับร้านค้าและร้านอาหาร – Wongnai มีฐานข้อมูลร้านค้าและร้านอาหารมากกว่า 1 ล้านร้านทั่วไทย นำมาให้บริการค้นหาข้อมูลร้านอาหารและรีวิวจากผู้ใช้งานจริง รวมทั้งมี Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหารและการขายผ่านดีลิเวอรี ถือเป็นผู้นำตลาด POS สำหรับร้านอาหาร และมีผู้ประกอบการร้านอาหารใช้งานมากกว่า 50,000 ร้าน

3. กลุ่มธุรกิจเสริมมูลค่า – ด้วยฐานผู้ใช้งานดีลิเวอรีที่มีทั้งผู้ใช้ ผู้ขับขี่ และร้านอาหารจำนวนมาก นำมาสู่ธุรกิจใหม่ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าแก่ทุกภาคส่วนในอีโคซิสเต็ม โดยมีทั้งธุรกิจโฆษณาสำหรับร้านอาหาร และธุรกิจบริการทางการเงิน

LINE MAN Wongnai มีปริมาณลูกค้าผู้ใช้บริการประมาณ 10 ล้านราย
ทั้งนี้ลูกค้าร้านค้าที่ใช้บริการ ของ LINE MAN Wongnai จำนวน 1 บริการ มีการเติบโต 1 เท่า ส่วนที่ใช้ 2 บริการ เติบโต 1.5 เท่า และที่ใช้ 3 บริการ เติบโตถึง 2.8 เท่า

อีกท้้่ง LINE MAN Wongnai มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 75% จากโครงการคนละครึ่งที่ผู้บริโภคใช้บริการ
อนาคตยังคงมีการขยายการบริการและธุรกิจใหม่ๆต่อเนื่อง






กำลังโหลดความคิดเห็น