กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ จัด “โครงการส่งเสริมการค้าปลีกออนไลน์ข้ามพรมแดนสู่ตลาดโลก Cross-Border e-Commerce ขายออนไลน์สู่ตลาดโลก” ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการค้าออนไลน์ของประเทศ และสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดและช่องทางการค้าใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มชั้นนำให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 4,000 รายขายสู่ตลาดต่างประเทศ
โครงการดังกล่าวได้จัดต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 8 เดือน (กุมภาพันธ์-กันยายน 2565) โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้รับความร่วมมืออันดีจากแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Amazon, Pchome Thai, KlangOne, Tmall China, Bigbasket, Reach 360 Activation, Amazon Singapore, Business Engineer Asia (Singapore), Doctor Anywhere, Shopee และ Expert Teams ที่มาร่วมเปิดประสบการณ์การขายออนไลน์ข้ามพรมแดน ตลอดจนแชร์กลยุทธ์ในการขายออนไลน์เพื่อเจาะตลาดศักยภาพ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน กัมพูชา จีน อินเดีย สิงคโปร์ และอาเซียน พร้อมจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจที่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างและขยายช่องทางการตลาด เป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจจากการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำระดับโลก
ในปีนี้มีผู้ร่วมโครงการกว่า 4,000 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจกว่า 200 คู่ สร้างมูลค่าการซื้อขายกว่า 205 ล้านบาท พิสูจน์ความสำเร็จได้จากส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมโครงการ เช่น
คุณก้องไพร คอนศรี เจ้าของแบรนด์ KhunPhai แบ่งปันประสบการณ์ว่า “แม้ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับ DITP และเคยไปร่วมงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศด้วยหลายครั้ง แต่หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ Cross-Border ทำให้ได้ความรู้ในการพัฒนาตนเองมากขึ้น สำหรับแบรนด์ KhunPhai ไม่เคยขายบนช่องทางออนไลน์ แม้เคยพยายามแต่ยังไม่สำเร็จ จนมาเข้าร่วมโครงการนี้จึงทำให้สามารถขายบน PChome Thai ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและได้ขึ้นขายจริง ตลาดไต้หวันก็ขายดีมากๆ มีออเดอร์เข้ามาตลอดเวลา ทำให้ธุรกิจของตนเองมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย”
คุณอุษา บุญให้ Assistant Business Development Manager แบรนด์ LongBeach Syrup
เผยว่า “เคยร่วมงานกับทาง DITP มาหลายครั้ง ตั้งแต่การจัดงานในรูปแบบออฟไลน์ ซึ่งทาง DITP มีการดูแล ให้คำแนะนำเรื่องเอกสาร รวมถึงช่องทางอื่นๆ ที่น่าสนใจในการขยายตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ LongBeach Syrup สามารถขยายฐานการค้าได้กว้างมากยิ่งขึ้น เพราะตลาดลูกค้าของแบรนด์จะอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นส่วนมาก ด้วยความช่วยเหลือจาก DITP ก็ทำให้สามารถเจาะกลุ่มไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังเข้าไม่ถึงได้ รวมถึงยังช่วยให้ขยายฐานตลาดไปยังฝั่งประเทศตะวันตกได้อีกด้วย”
ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่พลาดโอกาสในปีนี้ สามารถรับชมงานย้อนหลังและสามารถติดตามรายละเอียดงานครั้งต่อๆ ไปได้ทาง https://www.facebook.com/ThaiTradedotcom หรือ Call Center 1169