ผู้จัดการรายวัน 360 - “พาณิชย์” ลงนาม MOU “SHOPEE” ลุยอีคอมเมิร์ซอาเซียน ดันรายย่อยขายออนไลน์ไปต่างประเทศมากขึ้นผ่านโครงการ TOPTHAI Store กว่า 50,000 ราย ขายออนไลน์ไปต่างประเทศและสร้างมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทใน 3 ปี นับเป็นร้านลําดับที่ 7 แล้ว จากก่อนหน้านี้ได้เปิดแล้วบน 6 แพลตฟอร์ม สามารถสร้างมูลค่ารวมกันได้กว่า 505 ล้านบาท”
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานลงนาม MOU ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จํากัด ภายใต้เครือ Sea (ประเทศไทย) ในการร่วมมือด้านการส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน หวังดันผู้ประกอบการรายย่อยของไทยกว่า 50,000 รายขายออนไลน์ไปต่างประเทศและสร้างมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทใน 3 ปี
นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า “Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้ (ประเทศไทย) ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายช่องทางการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ผ่านโปรแกรม Shopee International Platform (SIP) ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสและลดอุปสรรคในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ
การร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในครั้งนี้ จะมุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย เพิ่มการรับรู้และโอกาสการเข้าถึงสินค้าไทย และการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่จะสามารถส่งออกได้อย่างสะดวกผ่านแพลตฟอร์มช้อปปี้”
ร้านค้าที่เข้าร่วมโปรแกรม “Shopee International Platform (SIP)” จะได้รับการสนับสนุนจากช้อปปี้ในด้านการจัดการร้านค้า เช่น การสร้างร้านค้าในต่างประเทศ การจัดการสินค้าและสต๊อก การแชตกับผู้ซื้อ และการจัดส่งไปต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ในระยะเริ่มต้นจะเปิดโอกาสให้ผู้ขายชาวไทยสามารถรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “กรมฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้บูรณาการความร่วมมือกับช้อปปี้ โดยร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์มช้อปปี้นับเป็นร้านลําดับที่ 7 แล้ว จากก่อนหน้านี้ได้เปิดแล้วบน 6 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Bigbasket.com (ตลาดอินเดีย) Tmall China (ตลาดจีน) Amazon (ตลาดอเมริกา) PChome Thai (ไต้หวัน) Klangthai (ตลาดกัมพูชา) และ Blibli (ตลาดอินโดนีเซีย) สามารถสร้างมูลค่ารวมกันได้กว่า 505 ล้านบาท”
ทั้งนี้ โครงการ TOPTHAI Store คือ ร้านค้าออนไลน์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่เปิดอยู่บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนําในตลาดเป้าหมาย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยที่มีศักยภาพสู่ตลาดโลกผ่านช่องทางออนไลน์ข้ามพรมแดนระดับสากล ซึ่งจุดแข็งของร้าน TOPTHAI คือเป็นร้านค้าที่จําหน่ายสินค้าคุณภาพจากไทยซึ่งผ่านการคัดสรรจากหน่วยงานรัฐบาล ทําให้เชื่อมั่นได้ว่าสินค้าจากร้าน TOPTHAI จะเป็นสินค้าคุณภาพดีจากไทย
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายหลักของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการเร่งผลักดันภาคการส่งออก โดยให้ความสำคัญต่อการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในทุกระดับก้าวสู่การค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้เร่งสร้างเครือข่ายการค้าอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการสร้างพาร์ตเนอร์ในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ โดยความร่วมมือกับแพลตฟอร์มช้อปปี้ที่เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยสามารถส่งออกสินค้าไทยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซของช้อปปี้ โดยผู้ประกอบการเปิดเพียงแค่ 1 ร้านค้าบนช้อปปี้ประเทศไทย จะสามารถขายสู่ 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ได้ ตลอดจนมีการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อเสริมกลยุทธ์ด้านการขายได้อย่างยั่งยืน
“ล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้โปรโมตร้านค้าของผู้ประกอบการผ่านแคมเปญ “TOPTHAI” หรือ “หน้าร้านค้าออนไลน์ของกรม” ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าไทยท่ามกลางสินค้านานาชาติ รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อและนำมาสู่ยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยมีแคมเปญที่หลากหลายได้แก่ คูปองส่วนลดและคูปองฟรีค่าจัดส่งให้แก่นักชอป รวมทั้งการปักหมุดร้าน TOPTHAI ไว้ที่หน้าแรกของแอปพลิเคชันเพื่อให้ผู้ใช้งานมองเห็นได้ตั้งแต่หน้าแรก ทั้งนี้ กระทรวงฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการชาวไทยโดยเฉพาะรายย่อยกว่า 50,000 ราย ให้สามารถขึ้นขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ เพื่อสร้างยอดขายกว่า 300 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว