ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไลอ้อน ประเทศไทย” บุกตลาดกัญชง ส่ง “เจลอาบน้ำโชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์” ชูนวัตกรรมพรีไบโอติก พร้อมสารสกัดจากกัญชงแบรนด์แรกในไทย ทุ่ม 100 ล้าน วางกลยุทธ์จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ออก TVC ดึงนางเอกสาว “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ชูกลยุทธ์การทำตลาดมุ่งนำเสนอนวัตกรรมของสินค้าที่ตรงใจผู้บริโภคและทำตลาดสินค้าพรีเมียมมากกว่าสินค้าพื้นฐาน
นายประเสริฐ สุรัตนเมธากุล ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม และเด็ก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดครีมอาบน้ำยังคงมีการแข่งขันสูงทั้งจากแบรนด์เดิมเจ้าตลาดและผู้แข่งขันหน้าใหม่ รวมทั้งสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีการแข่งขันด้านราคาและการจัดโปรโมชันอย่างเข้มข้น
โดยแบรนด์โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ (Shokubutsu Monogatari) ในฐานะแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาด จะมุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมของสินค้าที่ตรงใจผู้บริโภคและทำตลาดสินค้าที่มีความพรีเมียม มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของลูกค้า เช่น ความสะอาด ความหอม การบำรุงผิว โดยได้พัฒนาเป็นเจลอาบน้ำที่สามารถแก้ปัญหาผิวของลูกค้าได้ ซึ่งมีคุณภาพเทียบชั้นสินค้าครีมอาบน้ำนำเข้าในกลุ่มพรีเมียมหรือสินค้ากลุ่มเวชสำอางต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่สูงขึ้นของลูกค้า เนื่องจากตลาดนี้ยังมีช่องว่างและมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก
ล่าสุดได้เปิดตัวและทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ เจลอาบน้ำโชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์ (Shokubutsu Skin Solution Series) ด้วยนวัตกรรมดับเบิลพรีไบโอติกมาพร้อมสารสกัดจากกัญชง นับเป็นผลิตภัณฑ์แรกของประเทศไทยที่มีคุณสมบัติในการช่วยสร้างสมดุลผิวและยังเป็นเจลอาบน้ำแบรนด์แรกที่นำกัญชงมาใช้เป็นส่วนผสม บรรจุขวดขนาด 520 มล. ในราคา 199 บาท โดยมีทั้งหมด 3 สูตร ได้แก่
1. ADVANCE MOISTURE & PROTECTION ผสานสารสกัดจากใบชาเขียวและเห็ดหลินจือ
2. ACNE SOLUTION ผสานสารสกัดจากเมล็ดมะไฟจีน วิชฮาเซล และโอมิจา
3. SKIN BOOSTER ผสานคุณค่าสารสกัดจากเต้าหู้ญี่ปุ่นและโรสวอเตอร์ ที่มีสารแอนติออกซิแดนต์
“โชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์ เป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือของทีมวิจัยผลิตภัณฑ์ไลอ้อน และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย, สำนักวิชาการวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยเกษตรแปรรูปและอาหารเชิงหน้าที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รวมทั้งได้ผ่านการทดสอบและการันตีคุณภาพด้านต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงแห่งเดียวในอาเซียนจากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์กรมหาชน) ด้วย ซึ่งไลอ้อน และโชกุบุสซึ ภูมิใจที่ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ เนื่องจากเราได้ใช้ส่วนผสมจากสินค้าเกษตรที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านและเป็นผลผลิตชุมชนของชาวบ้านในประเทศไทย ซึ่งการนำส่วนผสมเหล่านี้มาใช้จะเป็นการสนับสนุนเกษตรชุมชนของชาวบ้านให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง ทั้งเมล็ดมะไฟจีนที่เป็นของเหลือทิ้งจากการแปรรูป มาสู่การสกัดเป็นวัตถุดิบใหม่ขึ้นทะเบียนเป็นครั้งแรกของโลก จากชุมชนผู้ปลูกมะไฟจีน และโมโรเฮยะ หรือผักพระราชา ที่มีการวิจัยจนได้กรรมวิธีสกัดจำเพาะของบริษัทไลอ้อน จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นโครงการที่นายแพทย์ มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตที่ปรึกษาบริษัทไลอ้อนที่ล่วงลับไปแล้วเป็นผู้วางรากฐานไว้ให้ ซึ่งไลอ้อนยังคงยึดแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรชุมชนของไทยเพื่อความยั่งยืนมาโดยตลอด” นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้ ได้ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำ “โชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดครีมอาบน้ำ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมีการจัดแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขายและสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมจัดทำ TVC ความยาว 30 และ15 วินาที ใช้พรีเซ็นเตอร์นางเอกสาว “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาเป็นแม่เหล็กและทูตส่งต่อความงามผิวสุขภาพดี ด้วยศาสตร์สายพันธุ์ใหม่ของผิวสวยสมดุล นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย รวมไปถึงการใช้สื่ออินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ และการจัดกิจกรรมรีวิวผลิตภัณฑ์ทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรวมเฉพาะในส่วนผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 24% ขณะที่ตลาดครีมอาบน้ำยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลตลาดครีมอาบน้ำของประเทศไทยจาก Nielsen (รอบเดือนกรกฎาคม 2565) ตลาดครีมอาบน้ำมีมูลค่าประมาณ 7,300 ล้านบาท เติบโต 5.2% โชกุบุสซึยังคงเป็นแบรนด์ครีมอาบน้ำที่มียอดขายเป็นอับดับ 1 ซึ่งเป็นการเป็นอันดับ 1 มาติดต่อกัน 3 ปีซ้อน โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำกลุ่มความงามซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของตลาดครีมอาบน้ำโชกุบุสซึมียอดขายอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาด 29% นอกจากนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Shokubutsu For men ยังขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดครีมอาบน้ำสำหรับผู้ชายที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 300 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งตลาด 43%
