“ศักดิ์สยาม”สั่งรฟท.เร่งประมูลก่อสร้างโยธาสีแดง ส่วนต่อขยาย 3 เส้นทางช่วง"ตลิ่งชัน-ศิริราช/รังสิต – ม.ธรรมศาสตร์”พร้อมประมูล ธ.ค.65 สายตลิ่งชัน-ศาลายา ม.ค.66 เริ่มตอกเข็ม พ.ค. 66 ส่วน Missing Link เร่งปรับแบบสถานีราชวิถีเชื่อมเข้ารพ.รามาฯ เปิดบริการปี 71
วันที่ 23 มิ.ย.2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามแนวทาง และ ความก้าวหน้าโครงการรถไฟสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) ผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meeting โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้าง สายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงิน 4,694.36 ล้านบาท ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร วงเงิน 6,468.69 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2565 ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท มีความพร้อมประกวดราคาในเดือนมกราคม 2566
โดยทั้ง 3 เส้นทาง จะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2566 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 สามารถเปิดให้บริการต่อขยายเส้นทางจากรถไฟสายสีแดงที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ไปยังพื้นที่ชานเมืองทางทิศเหนือและทิศตะวันตกของกรุงเทพมหานคร รองรับการเดินทางของประชาชนและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา รวมถึงประชาชนที่ใช้บริการโรงพยาบาลศิริราช ให้ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางได้อย่างตรงเวลายิ่งขึ้น
สำหรับช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงแบบสถานีราชวิถีใหม่ให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก และเป็นการบูรณาการการใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟสายสีแดงช่วง Missing Link ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุดในการเดินทางเชื่อมต่อ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตนได้มีข้อสั่งการให้คณะกรรมการกำหนดราคากลางโดยพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามหลักธรรมาธิบาลอย่างเคร่งครัดก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และ ให้ รฟท. เสนอรูปแบบของสัญญาการประกวดราคาแบบปรับราคาได้ ซึ่งจะทำให้กรอบวงเงินโครงการลดลงตามค่า k อันจะช่วยประหยัดวงเงินลงทุนโครงการได้ ในกรณีที่มีการลดลงของราคาวัสดุหรือต้นทุนทางพลังงาน
พร้อมกันนี้ได้กำชับต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานเพื่อผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทาง สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ที่จะสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบเส้นทางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ที่จะส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน การท่องเที่ยวนำมาสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ