“พาณิชย์” ดันขึ้นทะเบียน GI ไทย 3 รายการ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง จังหวัดเชียงราย สับปะรดห้วยมุ่น จังหวัดอุตรดิตถ์ ในตลาดญี่ปุ่น เผยล่าสุดญี่ปุ่นได้ตรวจสอบคำขอรับความคุ้มครองแล้ว มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจดูแหล่งเพาะปลูกและแหล่งผลิตปลายปีนี้ ตั้งเป้าหลังขึ้นทะเบียนสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้าน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ทำงานเชิงรุกร่วมกับกระทรวงเกษตร ป่าไม้ ของญี่ปุ่น ผลักดันการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าไทยจำนวน 3 รายการ ได้แก่ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง จังหวัดเชียงราย และสับปะรดห้วยมุ่น จังหวัดอุตรดิตถ์ ในตลาดญี่ปุ่น โดยปัจจุบันได้ตรวจสอบคำขอรับความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในสินค้า 3 รายการดังกล่าวของไทยในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดเดินทางมาไทยเพื่อลงพื้นที่ดูแหล่งเพาะปลูกและแหล่งผลิตสินค้า GI ดังกล่าวในช่วงปลายปี 2565
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมทรัพย์สินทางปัญญาประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้สินค้า GI ไทยได้รับการคุ้มครองในต่างประเทศ ทั้งสหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนาม รวม 7 รายการ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ผ้าไหมยกดอกลำพูน และมะขามหวานเพชรบูรณ์
“การได้รับความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของไทยในต่างประเทศ เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโอกาสทางการค้าให้กับสินค้า GI ไทยไปยังตลาดต่างประเทศ นำมาสู่การสร้างรายได้ให้แก่ประเทศและชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยสินค้า 3 รายการที่กำลังผลักดันจด GI ในตลาดญี่ปุ่น ได้ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยกว่า 1,200 ล้านบาท” นายสินิตย์กล่าว
สำหรับวิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนท้องถิ่น ที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นและมีคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง สามารถขอคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368